ด่วน ประชุมล่าสุด จุลพันธ์ ประกาศข่าวดี เงินดิจิทัล 10,000 เฟส 2

ด่วน ประชุมล่าสุด จุลพันธ์ ประกาศข่าวดี เงินดิจิทัล 10,000 เฟส 2

Post Image

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีกำหนดนัดประชุมนัดแรก ภายในปลายเดือนตุลาคม- ต้นเดือนพฤศจิกายน 2567 เบื

้องต้น จะมีการหารือเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่แต่ละหน่วยงานเตรียมนำเสนอ และการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงโครงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ในรูปแบบดิจิทัล วอลเล็ตด้วยนายจุลพันธ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการแจกเงิ

น 10,000 บาท เฟส 2 ยืนยันว่าดำเนินการต่ออย่างแน่นอน โดยกระบวนการในการพัฒนาระบบดิจิทัล วอลเล็ต ก็ยังเดินหน้าอยู่ ส่วนจะเริ่มแจกเงินได้เมื่อไหร่นั้น ขอรอให้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน ขณะที่รูปแบบนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามเดิน

หน้าเรื่องของระบบการจ่ายเงินดิจิทัล ซึ่งยังคงจะเป็นวอลเล็ต แบบ โอเพ่น ลูป (Open Loop) ตามเดิมยืนยันว่าสุดท้ายแล้วเงิน 10,000 บาทถึงมือประชาชนที่ได้สิทธิทุกคนอย่างครบถ้วน อย่างแน่นอน ส่วนรายละเอียดว่าจะแจก 10,000 บาททั้งก้อน หรือมีการแบ่งทยอยจ่ายนั้นข

อให้รอการประชุมคณะกรรมการกระตุ้นก่อน และการันตีว่า แจกเงิน 10,000 เฟส 2 นั้นมีเงินแล้วแน่นอน” นายจุลพันธ์ กล่าวขณะที่ ผลของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท เฟสแรก สำหรับการกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการนั้น ถือว่าการใช้จ่ายมีการกระจายตัว

ที่ดี ถือว่ามีการหมุนของเม็ดเงินที่ค่อนข้างเร็ว การค้าขายในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ก็ดูมีความคึกคักขึ้นมา แต่ว่าเราจะนิ่งนอนใจกับแค่ผลลัพธ์เท่านี้ไม่ได้ รัฐบาลยังต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็กำลังอยู่ในขั้นตอนกาพิจารณาและวางกรอบว่า จะท

ำมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ส่วนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ที่ยังไม่ได้รับเงิน 10,000 บาท หรือกลุ่มตกหล่นจำนวนกว่า 3 แสนคนนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลโดยกรมบัญชีกลางจะทำการโอนรอบจ่ายซ้ำ ได้แก่ วันที่ 22 ตุลาคม 2567 22 พฤศจิกายน และ 22 ธันวาคม

และกลุ่มคนพิการ จะโอนรอบจ่ายซ้ำวันที่ 21 ตุลาคม 21 พฤศจิกายน และ 19 ธันวาคม อย่างไรก็ดีเช่นว่า หลังการจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 2 ก็น่าจะเห็นแล้วว่าคนที่ไม่ดำเนินการผูกพร้อมเพย์เพื่อรับเงินนั้น คือผู้ที่ไม่อยากรับสิทธิสำหรับการเปิดลงทะเบียนสำหรับกลุ่มที่ไม่ม

ีสมาร์ทโฟน เพื่อรับสิทธิโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาทนั้น เหตุที่เลื่อนมาอย่างไม่กำหนดเนื่องจากเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนรัฐบาล อย่างไรก็ดี รัฐบาลยืนยันว่าจะการเปิดลงทะเบียนให้แน่นอน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนวันที่กำหนดชัดเจนแล้วจะ

ประกาศหลังจากที่มีข้อสรุปจากคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจนายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้รัฐบาล อยากจะรักษา โมเม้นตัมของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าว่าอยากเห็นเศรษฐกิจไทยเติบโต หรือ จีดีพี ได้เกิน 3% ไหม ก็ต้องอยาก เพราะว่าตัวเลขจีดีพี ที่โตเกิน 3% ต่อปี ส่งผลต

่อเนื่องกับจิตวิทยาในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ว่า มาตรการที่จะออกก็ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 รัฐบาลก็กำลังเตรียมมาตรการออกมา ซึ่งก็ต้องคุยกันในคณะกรรมการกระตุ้นเช่นกันส่วนที่ประชาชน และภาคเอกชน เรียกร้องให้รัฐบาลทำมาตรก

าร “คนละครึ่ง” ต่อนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลรับพิจารณาข้อเสนอทั้งหมด ไม่ได้มีการปิดกั้น ทางรัฐบาลชุดปัจจุบัน เราไม่ได้มีการยึดติดกับเรื่องศักดิ์ศรี เพราะเราเอาประโยชน์ของชาวบ้านเป็นหลัก และถ้าโครงการที่เสนอมายังมีประโยชน์อยู่ รัฐบาลก็ทำได้ ไม่ไ

ด้ติดขัดอะไร

ด่วน ประชุมล่าสุด จุลพันธ์ ประกาศข่าวดี เงินดิจิทัล 10,000 เฟส 2

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีกำหนดนัดประชุมนัดแรก ภายในปลายเดือนตุลาคม- ต้นเดือนพฤศจิกายน 2567 เบื

้องต้น จะมีการหารือเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ที่แต่ละหน่วยงานเตรียมนำเสนอ และการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงโครงการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ในรูปแบบดิจิทัล วอลเล็ตด้วยนายจุลพันธ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการแจกเงิ

น 10,000 บาท เฟส 2 ยืนยันว่าดำเนินการต่ออย่างแน่นอน โดยกระบวนการในการพัฒนาระบบดิจิทัล วอลเล็ต ก็ยังเดินหน้าอยู่ ส่วนจะเริ่มแจกเงินได้เมื่อไหร่นั้น ขอรอให้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน ขณะที่รูปแบบนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามเดิน

หน้าเรื่องของระบบการจ่ายเงินดิจิทัล ซึ่งยังคงจะเป็นวอลเล็ต แบบ โอเพ่น ลูป (Open Loop) ตามเดิมยืนยันว่าสุดท้ายแล้วเงิน 10,000 บาทถึงมือประชาชนที่ได้สิทธิทุกคนอย่างครบถ้วน อย่างแน่นอน ส่วนรายละเอียดว่าจะแจก 10,000 บาททั้งก้อน หรือมีการแบ่งทยอยจ่ายนั้นข

อให้รอการประชุมคณะกรรมการกระตุ้นก่อน และการันตีว่า แจกเงิน 10,000 เฟส 2 นั้นมีเงินแล้วแน่นอน” นายจุลพันธ์ กล่าวขณะที่ ผลของโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท เฟสแรก สำหรับการกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการนั้น ถือว่าการใช้จ่ายมีการกระจายตัว

ที่ดี ถือว่ามีการหมุนของเม็ดเงินที่ค่อนข้างเร็ว การค้าขายในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ก็ดูมีความคึกคักขึ้นมา แต่ว่าเราจะนิ่งนอนใจกับแค่ผลลัพธ์เท่านี้ไม่ได้ รัฐบาลยังต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็กำลังอยู่ในขั้นตอนกาพิจารณาและวางกรอบว่า จะท

ำมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ส่วนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ที่ยังไม่ได้รับเงิน 10,000 บาท หรือกลุ่มตกหล่นจำนวนกว่า 3 แสนคนนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลโดยกรมบัญชีกลางจะทำการโอนรอบจ่ายซ้ำ ได้แก่ วันที่ 22 ตุลาคม 2567 22 พฤศจิกายน และ 22 ธันวาคม

และกลุ่มคนพิการ จะโอนรอบจ่ายซ้ำวันที่ 21 ตุลาคม 21 พฤศจิกายน และ 19 ธันวาคม อย่างไรก็ดีเช่นว่า หลังการจ่ายซ้ำ ครั้งที่ 2 ก็น่าจะเห็นแล้วว่าคนที่ไม่ดำเนินการผูกพร้อมเพย์เพื่อรับเงินนั้น คือผู้ที่ไม่อยากรับสิทธิสำหรับการเปิดลงทะเบียนสำหรับกลุ่มที่ไม่ม

ีสมาร์ทโฟน เพื่อรับสิทธิโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาทนั้น เหตุที่เลื่อนมาอย่างไม่กำหนดเนื่องจากเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนรัฐบาล อย่างไรก็ดี รัฐบาลยืนยันว่าจะการเปิดลงทะเบียนให้แน่นอน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนวันที่กำหนดชัดเจนแล้วจะ

ประกาศหลังจากที่มีข้อสรุปจากคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจนายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้รัฐบาล อยากจะรักษา โมเม้นตัมของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าว่าอยากเห็นเศรษฐกิจไทยเติบโต หรือ จีดีพี ได้เกิน 3% ไหม ก็ต้องอยาก เพราะว่าตัวเลขจีดีพี ที่โตเกิน 3% ต่อปี ส่งผลต

่อเนื่องกับจิตวิทยาในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ว่า มาตรการที่จะออกก็ต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 รัฐบาลก็กำลังเตรียมมาตรการออกมา ซึ่งก็ต้องคุยกันในคณะกรรมการกระตุ้นเช่นกันส่วนที่ประชาชน และภาคเอกชน เรียกร้องให้รัฐบาลทำมาตรก

าร “คนละครึ่ง” ต่อนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลรับพิจารณาข้อเสนอทั้งหมด ไม่ได้มีการปิดกั้น ทางรัฐบาลชุดปัจจุบัน เราไม่ได้มีการยึดติดกับเรื่องศักดิ์ศรี เพราะเราเอาประโยชน์ของชาวบ้านเป็นหลัก และถ้าโครงการที่เสนอมายังมีประโยชน์อยู่ รัฐบาลก็ทำได้ ไม่ไ

ด้ติดขัดอะไร