== Laura Hasn’t Slept (2020) ฝันร้ายของลอร่า จุดเริ่มต้นของรอยยิ้มสยอง… == –

== Laura Hasn’t Slept (2020) ฝันร้ายของลอร่า จุดเริ่มต้นของรอยยิ้มสยอง… == –

หลังจากที่ฝันร้ายคืนแล้วคืนเล่า และมันกำลังจะทำให้เธอเป็นบ้า.

== Laura Hasn’t Slept (2020) ฝันร้ายของลอร่า จุดเริ่มต้นของรอยยิ้มสยอง… == –

ลอร่า วีเวอร์ก็ได้ไปพบกับนักบำบัดของเธอ ดร. พาร์สัน..

ลอร่าได้เล่าเรื่องของความฝัน ชายที่คอยยิ้มให้เธอตลอดเวลาเป็นรอยยิ้มที่น่าเย็นยะเยือก น่าขนลุก ..

== Laura Hasn't Slept (2020) ฝันร้ายของลอร่า จุดเริ่มต้นของรอยยิ้มสยอง... == -

== Laura Hasn’t Slept (2020) ฝันร้ายของลอร่า จุดเริ่มต้นของรอยยิ้มสยอง… == –

เธอไม่อยากจะหลับ เพราะไม่อยากเห็นรอยยิ้มนั่นอีก..

คุณยังจำลอร่า วีเวอร์ได้มั้ยครับ หากว่าคุณเคยชมภาพยนตร์เรื่อง Smile (2022) มาแล้ว

คงต้องจำรอยยิ้มชวนหลอนของเธอคนนี้ได้ ยิ้มที่มาพร้อมกับ…. เพราะเธอในเรื่องนี้กับ Smile ก็คือคนคนเดียวกันนั่นเอง

นี่คือจุดเริ่มของเรื่องราวก่อนส่งต่อไปยังรอยยิ้มมรณะที่หลายๆท่านได้ชมกันไป

ผลงานการเขียนบทและกำกับของ Parker Finn ดาวรุ่งมาแรงของวงการหนังสยองขวัญ

ซึ่ง Laura Hasn’t Slept เป็นหนังสั้นที่เป็นจุดเริ่มต้นของหนังเรื่อง Smile และประสบความสำเร็จมหาศาล

ด้วยทุนสร้าง 17 ล้าน แต่กวาดรายได้รวมสูงถึง 217.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ดังเปรี้ยงจนทำให้ พาราเมาท์ พิคเจอร์ส ต้องจับฟินน์ เซ็นสัญญาระยะยาวทันที

ซึ่ง Smile มีภาคต่อครับคือ Smile 2  นำโดย Kyle Gallner ในบทของโจเอล สายสืบหนุ่มที่โดนทิ้งท้ายไว้อย่างเจ็บปวด

เข้าฉายเปิดตัวที่สหรัฐฯในวันศุกร์ที่ 18 ตุลาคมนี้ล่ะ เรียกว่าต้อนรับเทศกาลฮาโลวีนที่กำลังจะมาถึงเลยทีเดียว

ส่วนบ้านเราวันที่ 17 ก็พรุ่งนี้แล้ว เร็วกว่าบ้านเค้าอีกกกกก

แม้ว่า Laura Hasn’t Slept จะเป็นหนังสั้นที่มีความยาวไม่มาก

แต่ฟินน์ ก็สาดความน่าสะพรึงกลัว สั่นประสาทออกมาใส่คนดูอย่างเต็มที่ไม่มียั้ง

ซึ่งหากได้ชมเรื่องนี้แล้ว คุณจะเห็นใจกับตัวของลอร่ามากขึ้น

และก็ไม่อยากให้เธอต้องพบกับจุดจบแบบที่เห็นใน Smile เลยจริงๆ…

แค่ 11 นาทีเท่านั้น ใช้เวลาแป๊ปเดียว แต่จำฝังใจแน่นอน…

ตอนนี้ผมมีเพจหนังล่ะน๊าาา เข้าไปตามกันได้นะครับ

ชื่อว่าาาาาาาาาา   เพราะหนังมันฝังใจ

https://www.facebook.com/profile.php?id=61565624000043

=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร

ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===