รู้จัก ‘โรเบิร์ต คิโยซากิ’ ชายผู้เขียน ‘พ่อรวยสอนลูก’ แต่มีหนี้สินพันล้านดอลลาร์ –

รู้จัก ‘โรเบิร์ต คิโยซากิ’ ชายผู้เขียน ‘พ่อรวยสอนลูก’ แต่มีหนี้สินพันล้านดอลลาร์ –

แนวการลงทุน รูปแบบการลงทุน และสินทรัพย์ในการลงทุน เปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัย

รู้จัก ‘โรเบิร์ต คิโยซากิ’ ชายผู้เขียน ‘พ่อรวยสอนลูก’ แต่มีหนี้สินพันล้านดอลลาร์ –

คิโยซากิก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า คำแนะนำเรื่องการลงทุนของเขานั้น ไม่ดูสภาพความเป็นจริงของแต่ละบุคคล และแนวคิดในหนังสือค่อนข้างล้าสมัย ซึ่งมันอาจได้ผลในช่วงยุค 90 แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป กลยุทธ์บางอย่างก็ตามไม่ทันโลกแล้ว

รู้จัก ‘โรเบิร์ต คิโยซากิ’ ชายผู้เขียน ‘พ่อรวยสอนลูก’ แต่มีหนี้สินพันล้านดอลลาร์ -

รู้จัก ‘โรเบิร์ต คิโยซากิ’ ชายผู้เขียน ‘พ่อรวยสอนลูก’ แต่มีหนี้สินพันล้านดอลลาร์ –

“พ่อรวย สอนลูก” หรือ “Rich Dad, Poor Dad” หนังสือขายดีตลอดกาล ยอดขายถล่มทลาย ทะลุมากกว่า 41 ล้านเล่มทั่วโลก เป็นหนังสือที่ถ้าพูดชื่อไปในกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน ไม่มีใครไม่รู้จัก “โรเบิร์ต คิโยซากิ” ผู้เขียนเรื่องนี้ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเครือข่าย

“คิโยซากิ” มักได้รับการยกย่องจากนักลงทุนหลายราย และนำแนวคิดของเขามาเป็นต้นแบบเกี่ยวกับเรื่องการเงิน การลงทุน ที่เมื่อหากใครสักคนสนใจอยากจะเดินหน้าสร้างนักธุรกิจ หรือ มีอิสรภาพทางการเงิน หนังสือของ “โรเบิร์ต คิโยซากิ” จะเป็นเล่มแรก ๆ ที่คุณถูกแนะนำให้อ่าน

ปัจจุบัน แนวคิดของเขาก็ยังมีอิทธิพลต่อกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ แม้ว่า เขาจะต้องเผชิญคำครหาจากหลายฝ่ายที่มองว่า แนวคิดของเขาสวนทางกับความเป็นจริง ท่ามกลางกองหนี้มหาศาลที่เขาต้องจมอยู่กับมัน

—โรเบิร์ต คิโยซากิ คือใคร ?—

“โรเบิร์ต คิโยซากิ” คือ ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ นักลงทุน และเป็นผู้เขียนหนังสือคัมภีร์สำหรับนักธุรกิจที่ขายดีตลอดกาล อย่าง “พ่อรวย สอนลูก” เขามักถูกเชิญให้ไปเป็นแขกตามรายการโทรทัศน์อยู่บ่อยครั้ง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์การลงทุนของเขา หนำซ้ำเขายังเป็นพิธีกรรายการ “Rich Dad Radio Show Podcast”

“คิโยซากิ” เกิดวันที่ 8 เมษายน 1947 เมืองฮิโล ฮาวาย เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น รุ่นที่ 4 เขาอ้างว่า มุมมองของเขาเกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการ, การเงิน และความมั่งคั่งในตอนที่เขาโตขึ้น ได้รับอิทธิพลมาจาก 2 บุคคล นั่นคือ “พ่อจน” ซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ เขาของ และ “พ่อรวย” ซึ่งเป็นพ่อเพื่อนสนิทเขา

เขา เผยว่า พ่อแท้ ๆ ของเขา มีการศึกษาสูง และทำงานในองค์กรรัฐบาล แต่ล้มเหลวกับการสะสมความมั่งคั่งจำนวนมาก แต่พ่อรวยของคิโยซากิจะสอนเขาถึงพลังของการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่คุณมี เพื่อสร้างความมั่งคั่ง ความรู้ที่เขาได้รับมาจากการสังเกตพ่อรวยของเขา ที่สะสมความมั่งคั่ง ทำให้กลายเป็นรากฐานสำหรับเขาในเวลาต่อมา กับการพยายามเป็นผู้ประกอบการ ในฐานะผู้ให้ความรู้ทางด้านการเงิน

ทั้งนี้ ภายหลังคิโยซากิ เปิดเผยตัวตนพ่อรวยของเขาคือ ริชาร์ด คิมิ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จากฮาวาย และเป็นพ่อเพื่อนสนิทของเขา หลังจากที่ริชาร์ดเสียชีวิต เมื่อปี 2009

ตอนวัยรุ่น คิโยซากิ เข้าเรียนที่สถาบันการเดินเรือพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา หลังสำเร็จการศึกษา เขาก็สมัครเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ ประจำการอยู่หน่วยนาวิกโยธิน หลังออกจาการรับราชการ ก็เข้าทำงานในบริษัท Xerox ก่อนจะออกมาก่อตั้งบริษัทแรกในชีวิตของเขา ชื่อว่า Rippers ในปี 1977 ก่อนจะล้มละลายในปี 1978

—สู่เส้นทางนักเขียน กำเนิด “พ่อรวย สอนลูก” หนังสือขายดีตลอดกาล—

ปี 1996 คิโยซากิ เริ่มต้นอาชีพเป็นผู้ประกอบการอีกครั้ง หลังเขาและภรรยาสร้างบอร์ดเกม “CASHFLOW” เพื่อสอนให้คนรู้จักเรื่องการเงิน การลงทุน ด้วยวิธีที่สนุกสนาน และสร้างสรรค์

ต่อมา ในปี 1997 เขาก็เริ่มเขียนหนังสือ “พ่อรวย สอนลูก” และก่อตั้งบริษัท Rich Global LLC เพื่อให้การศึกษาด้านการเงินส่วนบุคคล และธุรกิจผ่านรูปแบบหนังสือ และวิดีโอ

ปัจจุบัน บอร์ดเกมและหนังสือของคิโยซากิได้รับความนิยมอย่างมาก หลังจากนั้น เขาก็เขียนหนังสือออกมาอีกหลายเล่ม ซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้กันกับพ่อรวยสอนลูก ไม่ว่าจะเป็น พ่อรวยสอนปลุกอัจฉริยภาพทางการเงิน, พ่อรวยสอนลงทุน, พ่อรวยสอนวัยรุ่น, พ่อรวยสอนลูกใช้เงินให้ทำงาน

นิตยสาร Forbes เคยประมาณการมูลค่าทรัพย์สินของคิโยซากินอยู่ที่ราว 100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.3 พันล้านบาท

ท่ามกลางงานเขียนมากมายของเขา หนังสือ “พ่อรวย สอนลูก” เป็นหนังสือที่ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกมากที่สุด หนังสือที่ท้าทายความเชื่อสมัยก่อนว่า ต้องทำงานมีรายได้สูง ๆ จะทำให้เป็นคนมั่งคั่ง โดยเปรียบเทียบผ่านตัวอย่างพ่อแท้ ๆ ของเขา ซึ่งล้มเหลวทางการเงิน และพ่อที่รวย ผู้สอนเขาให้รู้จักการเงิน การลงทุน

—อิทธิพลของหนังสือ “พ่อรวย สอนลูก”—

คิโยซากิค่อนข้างมีอิทธิพลอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการเงินส่วนบุคคล และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการศึกษาการเงิน การลงทุน รายการโทรทัศน์ต่าง ๆ มักจะเชิญเขาเข้าร่วมรายการ เพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึก เช่น การลงทุน หรือ เศรษฐกิจโลก

หนังสือของเขามักถูกใช้อ้างอิงบ่อยครั้ง เกี่ยวกับการถกเถียงในเรื่องการเงิน และกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เสริมความรู้ โดยเฉพาะธุรกิจเครือข่าย ที่เรามักจะเห็นคนพูดถึงหนังสือเล่มนี้อยู่บ่อย ๆ และมักเป็นหนังสือเล่มแรก ๆ ที่แนะนำให้อ่านต่อกัน หากคุณอยากเข้าใจเรื่องการลงทุน

ทุกวันนี้ แม้จะผ่านมานานเกือบ 30 ปี “พ่อรวย สอนลูก” ยังครองใจนักอ่าน และเป็นหนังสือขายดีที่สุดตลอดกาล ในหมวดหนังสือธุรกิจอยู่ หลายคนประสบความสำเร็จจากการที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ แต่ก็มีหลายคนที่อ่านจบแล้วก็ยังไม่รวยขึ้น

ขณะเดียวกัน คิโยซากิก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า คำแนะนำเรื่องการลงทุนของเขานั้น ไม่ดูสภาพความเป็นจริงของแต่ละบุคคล และแนวคิดในหนังสือค่อนข้างล้าสมัย ซึ่งมันอาจได้ผลในช่วงยุค 90 แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป กลยุทธ์บางอย่างก็ตามไม่ทันโลกแล้ว

“เพราะว่าแนวคิดของเขา คือ การหารายได้เสริมจากการประกอบอาชีพอิสระ และปล่อยให้เงินทำงานด้วยตัวมันเอง วิธีนี้จะได้ผล ถ้าหากคุณมีพื้นฐานทางการเงิน โดยไม่มีหนี้ใด ๆ แต่คนส่วนใหญ่ล้วนเป็นหนี้ คนอเมริกันมีหนี้บัตรเครดิตมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ และยังมีสินเชื่อรถยนต์อีก 1 ล้านล้านดอลลาร์ สิ่งนั้น เบียดเบียนเงินเดือนของเรา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาไม่สามารถลงทุน หรือ ชำระหนี้ได้” บัญชีบนแพลตฟอร์ม Medium ชื่อ Johnnysbookreviews เขียนวิเคราะห์ว่า ทำไมคุณไม่ควรซื้อหนังสือ “พ่อรวย สอนลูก” ระบุ

นอกจากนี้ คิโยซากิ ยังถูกวิจารณ์ว่า เขาใช้หนังสือเป็นใบเบิกทาง เพื่อดึงดูดคนมาเสียเงินให้กับสัมมนาราคาแพง และจ้างเป็นโค้ชด้านการเงินจำนวนมาก หนำซ้ำยังเคยถูกฟ้อง จนต้องยื่นล้มละลายเมื่อปี 2012 หลังศาลตัดสินให้จ่ายเงินจำนวน 24 ล้านดอลลาร์ หรือราว 798 ล้านบาท เพื่อยุติข้อพิพาทเรื่องค่าลิขสิทธิ์

การกระทำเหล่านี้ ยิ่งทำให้สังคมตั้งคำถามว่า ทำไมนักลงทุนที่มีชื่อเสียง และสอนเรื่องการเงินแก่ผู้คนมากมายทั่วโลกอย่าง “คิโยซากิ” ถึงต้องยื่นฟ้องล้มละลาย และมีหนี้มากมายมหาศาล

—พ่อรวย สอนลูก สู่พ่อถูกฟ้องล้มละลาย—

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวนี้ เกิดขึ้นเมื่อบริษัท Learning Annex ซึ่งเป็นบริษัทพาร์ทเนอร์แรก ๆ ของเขาที่ช่วยทำการตลาดให้กับหนังสือ “พ่อรวย สอนลูก” ยื่นฟ้องต่อบริษัท Rich Global LLC หลายสิบล้านดอลลาร์ หลังไม่แบ่งเปอร์เซนต์กำไรจากการขายหนังสือตามที่เคยตกลงไว้ก่อนหน้านี้ และเมื่อศาลบังคับให้บริษัทต้องจ่าย เขากลับเลือกยื่นล้มละลายแทน โดยให้เหตุผลว่า บริษัท Rich Global LLC มีทรัพย์สินเพียงไม่กี่ล้านดอลลาร์เท่านั้น

ทั้งนี้ หลายฝ่ายมองว่า คิโยซากิได้ดำเนินการยักย้าย ถ่ายเททรัพย์สินของบริษัท กระจายไปยังบริษัทอื่น ๆ ในเครือของเขา จนทำให้บริษัทที่เป็นคู่พิพาทกับ Learning Annex เหลือทรัพย์สินเพียงไม่กี่ดอลลาร์ เพราะการฟ้องครั้งนี้ ยื่นฟ้องต่อบริษัท ไม่ใช่บุคคล จึงทำให้การล้มละลายเกิดขึ้นกับบริษัทเท่านั้น ไม่ใช่ตัวคิโยซากิ

ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงวิจารณ์ว่า สัมมนาสอนการลงทุนของเขา ค่อนข้างเข้าข่ายหลอกลวง โดยเริ่มต้นให้ลงเรียนแบบฟรี ก่อนจะโน้มน้าวให้นักเรียนเริ่มลงเรียนในวิชาที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ 500 ดอลลาร์ ไปจนถึง 45,000 ดอลลาร์ แต่ประเด็นนี้ ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า สิ่งนี้ เป็นการหลอกลวงจริงหรือไม่

นอกจากนี้ คิโยซากิ ออกมาเปิดเผยว่า ตนเองมีหนี้ราว 1.2 พันล้านดอลลาร์ โดยส่วนใหญ่หนี้ของเขาจะใช้ไปกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ และสินทรัพย์ ซึ่งเขามีความเชื่อว่า การออมเงินสดมีความเสี่ยง หลังประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ประกาศระงับการแปลงค่าเงินดอลลาร์เป็นทองคำ หรือสินทรัพย์สำรองอื่น ๆ ตั้งแต่ปี 1971 เขาใช้หนี้เป็นเหมือนเงินสด และเลือกที่จะออมเป็นเงินและทองแทน ซึ่งแนวคิดนี้ ทำให้เขามีหนี้สินสะสมทั้งหมด 1.2 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 3.99 หมื่นล้านบาท

“ถ้าผมล้มละลาย ธนาคารก็จะล้มละลายไปด้วย นั่นไม่ใช่ปัญหาของผม” คิโยซากิ กล่าว

“คิโยซากิ” นับได้ว่า ยังเป็นนักธุรกิจที่หลายคนมองเขาเป็นคนต้นแบบ และดำเนินตามแนวคิดของเขา แต่สุดท้าย เรื่องการเงิน การลงทุน เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้หลายด้าน ก่อนตัดสินใจทุ่มเงินลงไปที่ไหน เพื่อจะได้ไม่เผชิญกับความเสี่ยงในระดับที่เราอาจรับมือไม่ไหว หากเชื่อฟังใครมากเกินไป

https://www.facebook.com/share/p/8TXGpRiQ6vxC6FBL/?mibextid=xfxF2i