ด่วน! ศาลสั่งประหารชีวิต แอม ไซยาไนด์ อดีตสามี คุก 1 ปี ทนายพัชโดนด้วย 2 ปี

ด่วน! ศาลสั่งประหารชีวิต แอม ไซยาไนด์ อดีตสามี คุก 1 ปี ทนายพัชโดนด้วย 2 ปี

Post Image

ด่วน! ศาลสั่งประหารชีวิต แอม ไซยาไนด์ อดีตสามี คุก 1 ปี ทนายพัชโดนด้วย 2 ปีวันที่ 20 พฤศจิกายน ศาลอ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 5 และนางทองพิณ เกียรติชนะศิริ มารดาผู้เสียชีวิต ร่วมเป็นโจทก์ฟ้อง นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ อายุ

36 ปี จำเลยที่ 1 ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเตรียมการ หรือเพื่อที่จะสะดวกในการกระทำความผิดอย่างอื่น ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคอื่น เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้

ผู้อื่นถึงแก่ความตายส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 40 ปี อดีตสามี และอดีตรองผกก.สภ.สวนผึ้งจำเลยที่ 2 และ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัตร์ หรือ ทนายพัช อายุ 36 ปี จำเลยที่ 3 ในความผิดฐาน ช่วยเหลือจำเลยที่ 1 มิต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง และซ่อนเร้นท

ำลายหลักฐานโดยครอบครัวของ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ผู้เสียชีวิตปริศนาในคดี แอม ไซยาไนด์ เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พร้อมทีมทนายความ เพื่อฟังคำพิพากษานางทองพิน มารดาของ น.ส.ศิริพรได้กอดรูปลูกสาว ก่อนเปิดใจว่า ไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร แม่ขอไ

ม่ก้าวล่วง แต่จะขอทวงคืนความยุติธรรมให้กับลูกสาว และที่ผ่านมาคิดถึงลูกทุกวันไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูก ต้องดูแลหลานดูแลบ้าน เมื่อตอนลูกอยู่ไม่เคยใช้ชีวิตลำบาก เพราะลูกเปรียบเสมือนเสาหลักของครอบครัวเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากบอกลูกว่าอะไร นางท

องพินกล่าวว่า “อยากให้ชนะ อยากได้ความเป็นธรรม ไม่อยากให้ลูกตนตายฟรี แม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นผู้กระทำกับลูกของแม่อย่างแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะเป็นผู้กระทำ”นอกจากนี้นางทองพินยังฝากถึงทุกคนว่า “อย่าไว้ใจคนอื่น แม้จะเป็นคนใกล้ตัวเพราะเหตุการณ์ในครั

้งนี้เป็นบทเรียน คนที่คบกันมานานมันไม่น่าทำร้ายจนถึงเอาชีวิต และยังฝากบอกว่าจะกินอะไรของใครก็ต้องระวัง คนใกล้ชิดนี่แหละสำคัญที่สุด”อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เป็นเวลาผ่านมาแล้ว 19 เดือน 6 วัน ที่คดีของแอม ไซยาไนด์ ปรากฏขึ้นมาบนสื่อ และทางพนักงานสอบสวนได้มีกา

รส่งสำนวนให้กับอัยการไปแล้ว 15 คดี ซึ่งวันนี้จะเป็นการตัดสินในคดีแรกต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” อดีตสามีคุก 1 ปี 4 เดือน ทนายพัชคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาททั้งนี้ อัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤต

ิการณ์ความผิดพวกจำเลยต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 18 ก.ค.66 สรุปว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2566นางสรารัตน์ จำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่า น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อยอายุ 32 ปี โดยนำสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanide) ซึ่งเป็นสารพิษปลอมปนใส่ลงในอาหาร หรือน้ำดื่ม แ

ละปริมาณเท่าใดไม่ปรากฏชัด ให้ผู้ตายดื่มหรือรับประทาน ระหว่างที่จำเลยที่ 1 กับผู้ตาย ซึ่งเป็นเพื่อนกันเดินทางไปปล่อยปลาที่ท่าน้ำ ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ก่อนที่ผู้ตายจะหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยจำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้การช่วยเหลือและนำทรัพ

ย์สินผู้ตาย 9 รายการมูลค่า 154,630 บาท ของผู้ตายไปให้แก่ผู้มีชื่อ เพื่อซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ตามที่จำเลยที่ 3 ได้ใช้ หรือยุยงส่งเสริมจำเลยที่ 2 เพื่อมิให้เจ้าพนักงานตำรวจติดตามหาทรัพย์ของผู้ตาย เพื่อเป็นการช่วยเหลือจำเลยท

ี่ 1 มิให้ต้องรับโทษตามกฎหมาย หรือให้ได้รับโทษน้อยลงอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี โดยจำเลยที่ 1 ถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนจำเลยที่ 2-3 ได้รับการประกันตัวโดยศาลตีราคาประกันคนละ 1 แสนบาท

ด่วน! ศาลสั่งประหารชีวิต แอม ไซยาไนด์ อดีตสามี คุก 1 ปี ทนายพัชโดนด้วย 2 ปี

ด่วน! ศาลสั่งประหารชีวิต แอม ไซยาไนด์ อดีตสามี คุก 1 ปี ทนายพัชโดนด้วย 2 ปีวันที่ 20 พฤศจิกายน ศาลอ่านคำพิพากษา คดีที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 5 และนางทองพิณ เกียรติชนะศิริ มารดาผู้เสียชีวิต ร่วมเป็นโจทก์ฟ้อง นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ อายุ

36 ปี จำเลยที่ 1 ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อจะเตรียมการ หรือเพื่อที่จะสะดวกในการกระทำความผิดอย่างอื่น ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภคอื่น เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ และการปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้

ผู้อื่นถึงแก่ความตายส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 40 ปี อดีตสามี และอดีตรองผกก.สภ.สวนผึ้งจำเลยที่ 2 และ น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัตร์ หรือ ทนายพัช อายุ 36 ปี จำเลยที่ 3 ในความผิดฐาน ช่วยเหลือจำเลยที่ 1 มิต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลง และซ่อนเร้นท

ำลายหลักฐานโดยครอบครัวของ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ผู้เสียชีวิตปริศนาในคดี แอม ไซยาไนด์ เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พร้อมทีมทนายความ เพื่อฟังคำพิพากษานางทองพิน มารดาของ น.ส.ศิริพรได้กอดรูปลูกสาว ก่อนเปิดใจว่า ไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร แม่ขอไ

ม่ก้าวล่วง แต่จะขอทวงคืนความยุติธรรมให้กับลูกสาว และที่ผ่านมาคิดถึงลูกทุกวันไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูก ต้องดูแลหลานดูแลบ้าน เมื่อตอนลูกอยู่ไม่เคยใช้ชีวิตลำบาก เพราะลูกเปรียบเสมือนเสาหลักของครอบครัวเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากบอกลูกว่าอะไร นางท

องพินกล่าวว่า “อยากให้ชนะ อยากได้ความเป็นธรรม ไม่อยากให้ลูกตนตายฟรี แม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นผู้กระทำกับลูกของแม่อย่างแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะเป็นผู้กระทำ”นอกจากนี้นางทองพินยังฝากถึงทุกคนว่า “อย่าไว้ใจคนอื่น แม้จะเป็นคนใกล้ตัวเพราะเหตุการณ์ในครั

้งนี้เป็นบทเรียน คนที่คบกันมานานมันไม่น่าทำร้ายจนถึงเอาชีวิต และยังฝากบอกว่าจะกินอะไรของใครก็ต้องระวัง คนใกล้ชิดนี่แหละสำคัญที่สุด”อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เป็นเวลาผ่านมาแล้ว 19 เดือน 6 วัน ที่คดีของแอม ไซยาไนด์ ปรากฏขึ้นมาบนสื่อ และทางพนักงานสอบสวนได้มีกา

รส่งสำนวนให้กับอัยการไปแล้ว 15 คดี ซึ่งวันนี้จะเป็นการตัดสินในคดีแรกต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” อดีตสามีคุก 1 ปี 4 เดือน ทนายพัชคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาททั้งนี้ อัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤต

ิการณ์ความผิดพวกจำเลยต่อศาลอาญาเมื่อวันที่ 18 ก.ค.66 สรุปว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2566นางสรารัตน์ จำเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่า น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อยอายุ 32 ปี โดยนำสารโพแทสเซียมไซยาไนด์ (Potassium Cyanide) ซึ่งเป็นสารพิษปลอมปนใส่ลงในอาหาร หรือน้ำดื่ม แ

ละปริมาณเท่าใดไม่ปรากฏชัด ให้ผู้ตายดื่มหรือรับประทาน ระหว่างที่จำเลยที่ 1 กับผู้ตาย ซึ่งเป็นเพื่อนกันเดินทางไปปล่อยปลาที่ท่าน้ำ ต.บ้านโป่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ก่อนที่ผู้ตายจะหมดสติ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยจำเลยที่ 1 ไม่ได้ให้การช่วยเหลือและนำทรัพ

ย์สินผู้ตาย 9 รายการมูลค่า 154,630 บาท ของผู้ตายไปให้แก่ผู้มีชื่อ เพื่อซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ตามที่จำเลยที่ 3 ได้ใช้ หรือยุยงส่งเสริมจำเลยที่ 2 เพื่อมิให้เจ้าพนักงานตำรวจติดตามหาทรัพย์ของผู้ตาย เพื่อเป็นการช่วยเหลือจำเลยท

ี่ 1 มิให้ต้องรับโทษตามกฎหมาย หรือให้ได้รับโทษน้อยลงอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี โดยจำเลยที่ 1 ถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนจำเลยที่ 2-3 ได้รับการประกันตัวโดยศาลตีราคาประกันคนละ 1 แสนบาท