ป้าน้องปูอัด ฮีโร่บัสไฟไหม้ สุดช้ำ หลังแม่เด็กไม่เคยเลี้ยงดู ทิ้งให้พ่อเลี้ยงตั้งแต่ 7 เดือน แต่มารับเงินเยียวยา 1.2 ล้าน
วันที่ 5 ต.ค. 2567 ได้มีรายงานว่า เมื่อวานนี้ ทาง คปภ. และบริษัทประกันภัย ได้เดินทางมามอบเงินให้กับครอบครัวของครูและนักเรียน ทั้ง 23 ราย จากเหตุรถบัสทัศนศึกษาโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆารามไฟไหม้ รวมมูลค่าเงินประกันกว่า 30 ล้านบาท ก่อนพบว่ามีหลายครอบครัว
ของผู้เสียชีวิต เกิดปัญหาเรื่องการรับเงินประกันภัยก้อนนี้ เพราะบางครอบครัวนั้น ผู้เป็นพ่อแม่ไม่ได้เป็นคนเลี้ยงดูผู้เสียชีวิต แต่กลับเป็นผู้ที่รับเงินประกันตามชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกันกับ ครอบครัวของน้องปูอัด นักเรียนชั้น ป.3 หนูน้อยฮีโร่ที่เข้าไปช่วย
เพื่อนจนรอดชีวิตออกมาได้ แต่ตัวเองออกมาไม่ทัน และได้เสียชีวิตลง ซึ่งพบว่าตัวน้องปูอัดนั้น อยู่ในความดูแลของพ่อแท้ ๆ และป้า คือ นางไพฑูรย์ อายุ 62 ปี พี่สาวพ่อน้องปูอัด และนางนงนุช อายุ 50 ปี น้องสาวพ่อน้องปูอัด ซึ่งวันนี้ได้ร่วมกับญาติมาตั้งโรงทานเลี
้ยงอาหารเพื่อยกเป็นบุญกุศลให้กับตัวน้องโดยทางครอบครัวน้องปูอัด เปิดเผยว่า แม่น้องปูอัด นำน้องปูอัดมาให้ตนและพ่อของน้องเลี้ยงดู ตั้งแต่น้องอายุได้ 7 เดือน แต่พอมาวันนี้ทางแม่น้องกลับมาพูดว่าทางตนและพ่อน้อง เป็นคนไปแย่งน้องมา ทั้ง ๆ ที่เรื่องจริงนั้น แ
ม่ของน้องเป็นคนบอกให้น้องมาอยู่กับตนก่อน แต่พอมาวันนี้ กลับมาใช้สิทธิความเป็นแม่ มารับเงินก้อนนี้ไป ทั้ง ๆ ที่คนที่ดูแลน้องปูอัดจริง ๆ แล้วนั้นคือ พ่อและป้า ๆ ไม่ใช่แม่ของน้องเลย นาน ๆ ครั้งหรือแทบจะปีละครั้งที่น้องปูอัดจะได้เจอแม่ป้าน้องปูอัด กล่าวว
่า ก็เมื่อวานนี้ แม่น้องปูอัดก็ได้เดินทางมารับเงินประกันไป ซึ่งจ่ายเป็นเช็ค ยอดประมาณ 1.2 ล้านบาท เพราะตามชอบของกฎหมายแม่จะเป็นคนได้สิทธิก่อน แต่หากมองตามสิทธิความเป็นธรรมแล้วนั้น คนที่ควรได้รับเงินก้อนนี้ควรจะเป็นพ่อของน้องปูอัด ที่เป็นคนเลี้ยงดูน้อ
งมาทางด้าน นางสมจิตร อายุ 54 ปี ยายของน้องออโต้ นักเรียนชั้น ป.3 ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของน้องปูอัด และมีบ้านอยู่ใกล้กัน ได้เล่าว่า วันเกิดเหตุน้องออโต้ หลานชายของตน อยู่ในรถคันดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งน้องออโต้นั้นเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาเมื่อวานนี้ หลังจา
กที่สำลักควันไฟไปเยอะมาก โดยน้องออโต้ได้เล่าว่า ที่ตัวเองรอดมาได้เพราะปูอัดเป็นคนวิ่งขึ้นไปปลุกตนให้ตื่น จนทำให้วิ่งลงมาจากรถจากรถได้อย่างปลอดภัย แต่ทางน้องปูอัดนั้นไม่ยอมวิ่งออกมา เพราะบอกว่าจะไปช่วยเพื่อนอีกคนก่อน จนสุดท้ายน้องปูอัดก็ออกมาไม่ได้
ป้าน้องปูอัด ฮีโร่บัสไฟไหม้ สุดช้ำ หลังแม่เด็กไม่เคยเลี้ยงดู ทิ้งให้พ่อเลี้ยงตั้งแต่ 7 เดือน แต่มารับเงินเยียวยา 1.2 ล้าน
วันที่ 5 ต.ค. 2567 ได้มีรายงานว่า เมื่อวานนี้ ทาง คปภ. และบริษัทประกันภัย ได้เดินทางมามอบเงินให้กับครอบครัวของครูและนักเรียน ทั้ง 23 ราย จากเหตุรถบัสทัศนศึกษาโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆารามไฟไหม้ รวมมูลค่าเงินประกันกว่า 30 ล้านบาท ก่อนพบว่ามีหลายครอบครัว
ของผู้เสียชีวิต เกิดปัญหาเรื่องการรับเงินประกันภัยก้อนนี้ เพราะบางครอบครัวนั้น ผู้เป็นพ่อแม่ไม่ได้เป็นคนเลี้ยงดูผู้เสียชีวิต แต่กลับเป็นผู้ที่รับเงินประกันตามชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกันกับ ครอบครัวของน้องปูอัด นักเรียนชั้น ป.3 หนูน้อยฮีโร่ที่เข้าไปช่วย
เพื่อนจนรอดชีวิตออกมาได้ แต่ตัวเองออกมาไม่ทัน และได้เสียชีวิตลง ซึ่งพบว่าตัวน้องปูอัดนั้น อยู่ในความดูแลของพ่อแท้ ๆ และป้า คือ นางไพฑูรย์ อายุ 62 ปี พี่สาวพ่อน้องปูอัด และนางนงนุช อายุ 50 ปี น้องสาวพ่อน้องปูอัด ซึ่งวันนี้ได้ร่วมกับญาติมาตั้งโรงทานเลี
้ยงอาหารเพื่อยกเป็นบุญกุศลให้กับตัวน้องโดยทางครอบครัวน้องปูอัด เปิดเผยว่า แม่น้องปูอัด นำน้องปูอัดมาให้ตนและพ่อของน้องเลี้ยงดู ตั้งแต่น้องอายุได้ 7 เดือน แต่พอมาวันนี้ทางแม่น้องกลับมาพูดว่าทางตนและพ่อน้อง เป็นคนไปแย่งน้องมา ทั้ง ๆ ที่เรื่องจริงนั้น แ
ม่ของน้องเป็นคนบอกให้น้องมาอยู่กับตนก่อน แต่พอมาวันนี้ กลับมาใช้สิทธิความเป็นแม่ มารับเงินก้อนนี้ไป ทั้ง ๆ ที่คนที่ดูแลน้องปูอัดจริง ๆ แล้วนั้นคือ พ่อและป้า ๆ ไม่ใช่แม่ของน้องเลย นาน ๆ ครั้งหรือแทบจะปีละครั้งที่น้องปูอัดจะได้เจอแม่ป้าน้องปูอัด กล่าวว
่า ก็เมื่อวานนี้ แม่น้องปูอัดก็ได้เดินทางมารับเงินประกันไป ซึ่งจ่ายเป็นเช็ค ยอดประมาณ 1.2 ล้านบาท เพราะตามชอบของกฎหมายแม่จะเป็นคนได้สิทธิก่อน แต่หากมองตามสิทธิความเป็นธรรมแล้วนั้น คนที่ควรได้รับเงินก้อนนี้ควรจะเป็นพ่อของน้องปูอัด ที่เป็นคนเลี้ยงดูน้อ
งมาทางด้าน นางสมจิตร อายุ 54 ปี ยายของน้องออโต้ นักเรียนชั้น ป.3 ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของน้องปูอัด และมีบ้านอยู่ใกล้กัน ได้เล่าว่า วันเกิดเหตุน้องออโต้ หลานชายของตน อยู่ในรถคันดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งน้องออโต้นั้นเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาเมื่อวานนี้ หลังจา
กที่สำลักควันไฟไปเยอะมาก โดยน้องออโต้ได้เล่าว่า ที่ตัวเองรอดมาได้เพราะปูอัดเป็นคนวิ่งขึ้นไปปลุกตนให้ตื่น จนทำให้วิ่งลงมาจากรถจากรถได้อย่างปลอดภัย แต่ทางน้องปูอัดนั้นไม่ยอมวิ่งออกมา เพราะบอกว่าจะไปช่วยเพื่อนอีกคนก่อน จนสุดท้ายน้องปูอัดก็ออกมาไม่ได้