เช็กด่วน 2 รพ.เอกชน ประกาศถอนตัว รับผู้ป่วยประกันสังคม

เช็กด่วน 2 รพ.เอกชน ประกาศถอนตัว รับผู้ป่วยประกันสังคม

Post Image

ในสิ้นปี 2567 มีรพ.เอกชน 2 แห่งที่แจ้งถอนตัวออกจากการเป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม ให้บริการผู้ประกันตนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 นี้เท่านั้น ได้แก่ รพ.ซีจีเอชสายไหม และรพ.กรุงเทพสุราษฎร์ธานีโดย โรงพยาบาลกรุงเทพสุราษฎร์ ประกาศระบุว่า ขอแจ้งถอนตัวออก

จากการเป็นคู่สัญญา กับสำนักงานประกันสังคมโดยผู้ประกันตนยังสามารถใช้บริการกับ รพ.กรุงเทพสุราษฎร์ ได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 หรือสิ้นปีนี้ ขอแนะนำให้ผู้ประกันตน เริ่มพิจารณารพ.ใหม่ ตั้งแต่บัดนี้ เพื่อสามารถวางแผนในการย้ายสิทธิ ทั้งนี้ผู้

ประกันตนสามารถดำเนินการขประวัติการรักษาของท่านได้ที่ แผนกเวชระเบียน รพ.กรุงเทพสุราษฎร์ จึงเรียนมาเพื่อทราบ / ขออภัยในความไม่สะดวกโรงพยาบาลซีจีเอช สายไหม ขอแจ้งถอนตัวออกจากการเป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม โดยผู้ประกันตนยังสามารถใช้บริการกับ รพ.ซี

จีเอช สายไหม ไถ้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 67 หรือสิ้นปีนี้ ขอแนะนำให้ผู้ประกันตน เริ่มพิจารณารพ.ใหม่ตั้งแต่บัดนี้ เพื่อสามารถย้ายสิทธิได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถติดต่อขอรับสรุปประวัติการรักษาของท่าน ได้ที่แผนกเวชระเบียนชั้น 1 จ

ึงเรียนมาเพื่อทราบด้าน นายแพทย์ไพบูลย์ เอกแสงศรี นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2565-2566 ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคมได้ปรับลดค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรคที่มีค่า Adjusted RW มากกว่า 2 ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของทั้งสองปี ทำให้โรงพยาบาลเอกชนที่

เป็นคู่สัญญากับประกันสังคมต้องเผชิญกับภาระขาดทุน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้จ่ายไปล่วงหน้าแล้ว รวมถึงภาษีที่ต้องจ่ายตามประมาณการรายได้ ทำให้การปรับลดงบประมาณนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสถานะการเงินของโรงพยาบาลแม้ในปี 2565 สำนักงานประกันสังคมจ

ะปรับเพิ่มค่าหัวเหมาจ่ายจาก 1,640 บาท เป็น 1,808 บาท แต่สำหรับกลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงและโรคเรื้อรังกลับไม่มีการปรับเพิ่มค่าตอบแทนมาเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งส่งผลให้จำนวนโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมกับระบบประกันสังคมลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านม

า จำนวนโรงพยาบาลที่เข้าร่วมลดลงจาก 120 แห่ง เหลือเพียง 93 แห่งในปัจจุบัน แม้จะมีโรงพยาบาลใหม่เข้าร่วมบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก ไม่สามารถรองรับผู้ประกันตนได้มากพอหากสถานการณ์นี้ยังคงดำเนินต่อไป จะส่งผลให้โรงพยาบาลเอกชนที่เป็นสมาชิกสมาคมหลา

ยแห่งอาจไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้ ซึ่งอาจทำให้โรงพยาบาลเหล่านี้ตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นคู่สัญญากับประกันสังคม ส่งผลให้จำนวนโรงพยาบาลที่รองรับผู้ประกันตนลดลง และถ้าโรงพยาบาลเอกชนลดลงจะสร้างภาระให้กับโรงพยาบาลรัฐที่ต้องรองรับผู้ประกันตนเพ

ิ่มขึ้น

เช็กด่วน 2 รพ.เอกชน ประกาศถอนตัว รับผู้ป่วยประกันสังคม

ในสิ้นปี 2567 มีรพ.เอกชน 2 แห่งที่แจ้งถอนตัวออกจากการเป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม ให้บริการผู้ประกันตนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 นี้เท่านั้น ได้แก่ รพ.ซีจีเอชสายไหม และรพ.กรุงเทพสุราษฎร์ธานีโดย โรงพยาบาลกรุงเทพสุราษฎร์ ประกาศระบุว่า ขอแจ้งถอนตัวออก

จากการเป็นคู่สัญญา กับสำนักงานประกันสังคมโดยผู้ประกันตนยังสามารถใช้บริการกับ รพ.กรุงเทพสุราษฎร์ ได้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 หรือสิ้นปีนี้ ขอแนะนำให้ผู้ประกันตน เริ่มพิจารณารพ.ใหม่ ตั้งแต่บัดนี้ เพื่อสามารถวางแผนในการย้ายสิทธิ ทั้งนี้ผู้

ประกันตนสามารถดำเนินการขประวัติการรักษาของท่านได้ที่ แผนกเวชระเบียน รพ.กรุงเทพสุราษฎร์ จึงเรียนมาเพื่อทราบ / ขออภัยในความไม่สะดวกโรงพยาบาลซีจีเอช สายไหม ขอแจ้งถอนตัวออกจากการเป็นคู่สัญญากับสำนักงานประกันสังคม โดยผู้ประกันตนยังสามารถใช้บริการกับ รพ.ซี

จีเอช สายไหม ไถ้อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 67 หรือสิ้นปีนี้ ขอแนะนำให้ผู้ประกันตน เริ่มพิจารณารพ.ใหม่ตั้งแต่บัดนี้ เพื่อสามารถย้ายสิทธิได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถติดต่อขอรับสรุปประวัติการรักษาของท่าน ได้ที่แผนกเวชระเบียนชั้น 1 จ

ึงเรียนมาเพื่อทราบด้าน นายแพทย์ไพบูลย์ เอกแสงศรี นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2565-2566 ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคมได้ปรับลดค่ารักษาพยาบาลสำหรับโรคที่มีค่า Adjusted RW มากกว่า 2 ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของทั้งสองปี ทำให้โรงพยาบาลเอกชนที่

เป็นคู่สัญญากับประกันสังคมต้องเผชิญกับภาระขาดทุน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้จ่ายไปล่วงหน้าแล้ว รวมถึงภาษีที่ต้องจ่ายตามประมาณการรายได้ ทำให้การปรับลดงบประมาณนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสถานะการเงินของโรงพยาบาลแม้ในปี 2565 สำนักงานประกันสังคมจ

ะปรับเพิ่มค่าหัวเหมาจ่ายจาก 1,640 บาท เป็น 1,808 บาท แต่สำหรับกลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงและโรคเรื้อรังกลับไม่มีการปรับเพิ่มค่าตอบแทนมาเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งส่งผลให้จำนวนโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมกับระบบประกันสังคมลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านม

า จำนวนโรงพยาบาลที่เข้าร่วมลดลงจาก 120 แห่ง เหลือเพียง 93 แห่งในปัจจุบัน แม้จะมีโรงพยาบาลใหม่เข้าร่วมบ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก ไม่สามารถรองรับผู้ประกันตนได้มากพอหากสถานการณ์นี้ยังคงดำเนินต่อไป จะส่งผลให้โรงพยาบาลเอกชนที่เป็นสมาชิกสมาคมหลา

ยแห่งอาจไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นได้ ซึ่งอาจทำให้โรงพยาบาลเหล่านี้ตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นคู่สัญญากับประกันสังคม ส่งผลให้จำนวนโรงพยาบาลที่รองรับผู้ประกันตนลดลง และถ้าโรงพยาบาลเอกชนลดลงจะสร้างภาระให้กับโรงพยาบาลรัฐที่ต้องรองรับผู้ประกันตนเพ

ิ่มขึ้น