วิวาห์สุดสลด! “เจ้าสาว 8 ขวบ” ดับสยอง หลังเข้าหอคืนแรกกับ “เจ้าบ่าววัย 40 ปี”
ย้อนไปชมข่าวเศร้าจากต่างประเทศ เมื่อเด็กหญิงชาวเยเมนวัย 8 ขวบ เสียชีวิตจากการตกเลือดภายในคืนแต่งงาน หลังถูกบังคับให้แต่งงานกับชายวัย 40 ปีรายงานจาก การ์เดียน ระบุว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมืองมีดิ จังหวัดฮัจจาห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเยเมน เมื่อ
ปี 2022 โดยเด็กหญิงเคราะห์ร้ายคนนี้มีชื่อว่า ราวัน ถูกบังคับให้แต่งงาน และเสียชีวิตในคืนวิวาห์หลังมีเพศสัมพันธ์กับเจ้าบ่าวโดยเหตุการณ์นี้ได้จุดประเด็นถกเถียงเรื่องการแต่งงานเด็กขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งครอบครัวที่มีฐานะยากจนมักบังคับให้ลูกสาวแต่งงานตั้งแต่
อายุยังน้อย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและได้เงินสินสอดมาเพื่อดำรงชีวิตรายงานของ UN (United Nations) หรือ สหประชาชาติ เผยว่าประชากร 10.5 ล้านคนจากทั้งหมด 24 ล้านคนในเยเมน ประสบภาวะขาดแคลนอาหาร และจำนวน 13 ล้านคนไม่มีน้ำสะอาดใช้ รวมไปถึงสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน
อย่างอื่นด้วยด้าน HRW (Human Rights Watch) เรียกร้องให้เยเมนยกเลิกการให้เด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปีแต่งงาน เนื่องจากการแต่งงานในวัยเด็กเกินไปนั้นส่งผลกระทบต่อการศึกษาและสุขภาพของเด็กหญิงเอง และยังเป็นประเด็นสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศมานานหลายสิ
บปี
วิวาห์สุดสลด! “เจ้าสาว 8 ขวบ” ดับสยอง หลังเข้าหอคืนแรกกับ “เจ้าบ่าววัย 40 ปี”
ย้อนไปชมข่าวเศร้าจากต่างประเทศ เมื่อเด็กหญิงชาวเยเมนวัย 8 ขวบ เสียชีวิตจากการตกเลือดภายในคืนแต่งงาน หลังถูกบังคับให้แต่งงานกับชายวัย 40 ปีรายงานจาก การ์เดียน ระบุว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมืองมีดิ จังหวัดฮัจจาห์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเยเมน เมื่อ
ปี 2022 โดยเด็กหญิงเคราะห์ร้ายคนนี้มีชื่อว่า ราวัน ถูกบังคับให้แต่งงาน และเสียชีวิตในคืนวิวาห์หลังมีเพศสัมพันธ์กับเจ้าบ่าวโดยเหตุการณ์นี้ได้จุดประเด็นถกเถียงเรื่องการแต่งงานเด็กขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งครอบครัวที่มีฐานะยากจนมักบังคับให้ลูกสาวแต่งงานตั้งแต่
อายุยังน้อย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและได้เงินสินสอดมาเพื่อดำรงชีวิตรายงานของ UN (United Nations) หรือ สหประชาชาติ เผยว่าประชากร 10.5 ล้านคนจากทั้งหมด 24 ล้านคนในเยเมน ประสบภาวะขาดแคลนอาหาร และจำนวน 13 ล้านคนไม่มีน้ำสะอาดใช้ รวมไปถึงสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน
อย่างอื่นด้วยด้าน HRW (Human Rights Watch) เรียกร้องให้เยเมนยกเลิกการให้เด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปีแต่งงาน เนื่องจากการแต่งงานในวัยเด็กเกินไปนั้นส่งผลกระทบต่อการศึกษาและสุขภาพของเด็กหญิงเอง และยังเป็นประเด็นสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศมานานหลายสิ
บปี