ตั้งใจไปดูงานศิลป ไหงลงท้ายด้วยเพลินกับการกิน…ที่เชียงราย เล่าเรื่องหลายหลากจากการกิน –

ตั้งใจไปดูงานศิลป ไหงลงท้ายด้วยเพลินกับการกิน…ที่เชียงราย เล่าเรื่องหลายหลากจากการกิน –

เห็น poster งาน Biennale งานแสดงศิลปะที่จะจัดที่เชียงรายตั้งแต่ปลายปีที่แล้วค่ะ ที่ทำให้ตาลุกวาวที่สุด น่าจะเป็นแปลงนาแมว เทคนิคการปลูกข้าว ที่เอาข้าวต่างสายพันธุ์ หลากสี มาปักเรียงปลูกเป็นลายเส้นรูปตัวแมว

ตั้งใจไปดูงานศิลป ไหงลงท้ายด้วยเพลินกับการกิน…ที่เชียงราย เล่าเรื่องหลายหลากจากการกิน –

บ้านเราเป็นทาสแมว  นี่ก็ตื่นเต้น ตื่นเต้นอยากพาลูกไปดูมาก

ตามรายละเอียด Biennale จะจัดถึง 30 เมษานี้

ตั้งใจไปดูงานศิลป ไหงลงท้ายด้วยเพลินกับการกิน...ที่เชียงราย เล่าเรื่องหลายหลากจากการกิน -

ตั้งใจไปดูงานศิลป ไหงลงท้ายด้วยเพลินกับการกิน…ที่เชียงราย เล่าเรื่องหลายหลากจากการกิน –

คนเล็กไม่ไป คนกลางเธอติดกิจกรรมที่มหาลัย เหลือแต่คนโต ที่บอกว่า ตารางลูกว่างช่วง 6-8 เมษานี้พอดี

แม่จองตั๋วตั้งแต่เนิ่น ๆ เช่ารถ กะจะพาลูกตะลุยดูงานศิลปเต็มที่

ก่อนจะถึงวันนั้น มีเหตุให้ต้องไปทำธุระกึ่งเที่ยวนิดหน่อยที่เชียงรายในช่วงเดือนกุมภา  ทริปนั้น ได้ข้ามฝั่งไปลาวตรงช่วงสามเหลี่ยมทองคำ ได้ไปวัดพระธาตุผาเงา ไปวัดอนาลโย และไปดูงานเทศกาลดอกไม้ที่สวนตุงของนครเชียงรายด้วย ประทับใจกับอากาศเย็นสบาย ดอกไม้สวย และโรงแรม Riverie ริมน้ำกกที่พักดีมากกกก ใช้คำว่าดีเลิศก็ไม่ฟังดูเกินไป   แต่ทริปนั้นมีเรื่องธุระที่ต้องจัดการอยู่ด้วย ถึงจะอาหารดี ที่พักสะดวกสบาย หรูหรา บรรยากาศดีมาก ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า หรือบาร์บนดาดฟ้าตอนกลางคืน แต่ความสนุก ความสนิทใจ ย่อมเทียบกับที่ไปกับลูกไม่ได้อยู่แล้ว

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ไปเที่ยวนี้

เราจองที่ Hop Inn ค่ะ

บรรยายประโยคเดียวสั้น ๆ ถึง Hop Inn ที่เคยพักได้เลยว่า “สะอาด สะดวก และคุ้มราคามาก” แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับแวะพัก แวะนอนเวลาเที่ยวแล้วค่ะ

จะพัก Hop Inn เชียงราย ดูดี ๆ นะคะ มี 2 สาขา อยู่ไม่ไกลกันมาก ถ้าจะเอาแบบกินเที่ยวสะดวกที่สุด ให้พักสาขาหอนาฬิกาค่ะ จะอยู่ตรงสี่แยก ตรงข้ามเยื้อง ๆ วัดมิ่งเมือง และหอนาฬิกาอันสวยงามขึ้นชื่อของเชียงราย แถวนั้น เป็นย่านกินย่านเที่ยวแบบเดินถึงได้แบบสบาย ๆ   แต่ถ้าพัก Hop Inn เชียงรายใกล้ ๆ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อันนี้ จะไกลจากจุดกินจุดเที่ยวในเมืองมาหน่อย แต่เงียบสงบกว่าค่ะ เราเลือกอย่างหลัง ไม่ใช่เพราะต้องการความเงียบ แต่เพราะจองผิด (ฮา …)

ก่อนเดินทางจริง ๆ เรายุ่งมาก รู้สึกน่วมไปทั้งร่างกายและจิตใจ  หนึ่งวันก่อนเดินทาง มันมีเรื่องงานบางอย่างและประเด็นบางอย่างที่ต้องสะสางจัดการ และการเจรจาที่หนักหน่วงอยู่เอาการกับคู่ค้า ที่สำคัญเราอยู่ในภาวะแพ้เปรียบทุกประตูเลย งานนี้ คนข้างตัวให้เราเป็นคน lead เพราะเป็นเรื่องเงิน ฮา อีกแล้วครับท่าน

เนื่องจากผู้บริหารที่จะแวะมาเยี่ยมนี้เป็นคนอินเดียและประสงค์จะแวะมาช่วงสาย ๆ จนถึงเที่ยง ซึ่งแน่นอนว่า ต้องทานกลางวันกับเราที่นี่  ในความไกลปืนเที่ยงของที่ที่เราอยู่ แค่สั่งอาหารที่หรูหราเหมาะสมหน่อยธรรมดาก็ต้องเตรียมการแล้ว มิพักต้องพูดถึง อาหารอินเดียมังสวิรัติที่ควรจะอร่อยและดูดีด้วย  เราขอให้ลูกคนโตเลือกเมนูอินเดีย และสั่ง Grab ให้ไปส่งให้เธอที่หอพักในเมือง เราแวะรับเอาหนึ่งวันก่อนประชุม ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เรายังยื้อเวลาและได้ไฟเขียวให้หาทางแก้ไขได้อีกพักนึง  หลังประชุมเสร็จ ผู้บริหารอินเดียท่านนั้นถึงกับทึ่ง ที่อาหารอินเดียรสชาติดี อุ่นเรียบร้อย มารออยู่เต็มโต๊ะ ทั้งแป้งนาน จานแกง จานชีสปรุงอย่าง ปันเนียร์ บฮูจิ จานกะหล่ำอย่างอลูโกบี้ รวมถึงชามาซาล่าหอมกรุ่นอยู่ในกระติกเก็บความร้อน เทออกมาควันยังฉุย ของหวานยังมีขนมหวานละมุนลิ้นอย่างกุหลาบจามุนแช่ในน้ำเชื่อมรสหอมหวาน ราสมาลัย ชีสฟองน้ำชุ่มนม รัสกุลล่า นมเคี่ยวหอมหวานเสริ์ฟด้วย

แขก (literally แขกจริง ๆ ) คนสำคัญถึงกับยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปอาหาร ส่งไปให้ภรรยาที่อินเดียดู บอกว่า ไม่น่าเชื่อว่า จะได้รับการเสริ์ฟอาหารอย่างนี้ ในที่ไกลขนาดนี้ในเมืองไทย ฮา … ทีมงานไทยที่มาด้วยก็ทึ่งปนแปลกใจว่าเราไปสรรหาอาหารมาจากไหน ยังไงก๊อน …

ผลการประชุมเยี่ยมเยียนผ่านไปได้อย่างชวนโล่งอก ยังมีอะไรอีกมากมายต้องทำและต้องเคลียร์ แต่อย่างน้อย การสนทนาเป็นไปอย่างฉันมิตรและถ้อยทีถ้อยอาศัย ขณะที่หกเจ็ดคนในวงผ่อนคลายพอที่จะหยิบแป้งนานมาฉีกกินด้วยมืออย่างกันเอง

เราถอนหายใจแบบโล่งอก แต่สิ่งที่ตามมาด้วยคือ เราไม่ได้มีเวลาทำการบ้านก่อนพาลูกไป Biennale เลยค่า ว่า ต้องไปเที่ยวไหน ก่อน หลัง กินอะไรที่ไหน ยังไงบ้างหรือมีเวลาได้ศึกษาเส้นทางก่อน ซึ่งผิดวิสัยเรา เวลาต้องหนีบลูกไปเที่ยวด้วยอย่างแรง

ในมือมีแค่ 2 อย่าง คือ ตารางงาน Biennale ที่ print เอาง่าย ๆ จากในเน็ต และรายชื่อพระและวัดในเมืองที่น่าจะได้ไปกราบ จากในเน็ตอีกเช่นกัน

นอกนั้น ไม่รู้อะไรมากเลย รู้แค่ว่าจะไปดูนาแมว

วันขึ้นเครื่อง เรากับลูกสาวคนโตง่วงมาก แต่คิดว่าจะไปนอนเอาดาบหน้า ก็ให้บังเอิ๊ญไปเจอพี่คนไทยที่เพิ่งกลับจากญี่ปุ่นต่อเครื่องกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เชียงราย พี่ผู้หญิงคนนี้คุยสนุก และกันเองมาก ทำไปทำมา นี่ก็ไม่ได้นอนอย่างที่ตั้งใจ  มัวแต่คุย บอกเล่า เม้าธ์มอยเรื่องต่าง ๆ กันจนเครื่องจอด

เราเป็นคนคุยง่ายและเปิดเผย เค้าถามว่ามาทำอะไร ชอบอะไรทางเหนือ นี่ก็จาระไนแต่เรื่องเที่ยวเรื่องกิน จนพี่ถามว่า ถ้าชอบขนาดนี้ ทำไมไม่แต่งงานกับผู้ชายเหนือล่ะ ?

นี่ก็ขำลงไปกองเลยค่ะ โอ๊ย ยังกับง่ายแน่ะ  ตอบพี่สาวเจ้านี้ไปว่า “สมัยสาว ๆ ไม่มีคนเหนือมาจีบเจ้า” แต่ในใจแอบคิดว่า “โอ๊ยยย พี่จ๋า … ผู้ชายเหนือนี่ไม่ใช่เนื้อไก่ เนื้อหมูตามร้านชาบูนี่ จะได้ไปเลือกคีบมาได้ตามอำเภอใจ”

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ผู้ชายเหนือ สำหรับเราเป็นหนุ่มในฝันมาตลอด  ไม่ใช่ฝันว่าจะได้ลงเอยนะ  แต่ในฝันใน sense ว่า เหมือนคนในภาพฝันมากกว่าความเป็นจริงอ่ะ  สมัยเป็นนักศึกษาเคยทำ part time ที่ร้านฟาสต์ฟู้ดแห่งนึง พี่ผู้จัดการร้านที่เป็นผู้ชายเหนือนี่ หน้าตาดี สะโอดสะอง พูดจาเพราะ นิสัยดี ปรานีลูกน้อง ใจดี ยิ้มละไมอยู่ตลอดเหมือนพระเอกในละครคุณธรรม

ตอนเราไปเชียงใหม่ ช่วงเช้าก่อนลูกตื่น เราแวะไปไหว้พระที่วัดอุปคุต เจอหนุ่มเหนือพาคุณแม่มาวัด ท่าทีอ่อนโยนที่ค่อย ๆ ประคองคุณแม่ลงจากรถนี่ ทำเราหัวใจนุ่มลงไปเลย ได้แต่ยืนมองแล้วยิ้มเบา ๆ กับตัวเอง

เนี่ยะ… หนุ่มในฝันมันจะอารมณ์ประมาณนี้แหละ

และก็อยู่แต่ในความฝัน ไม่มีวันได้เดินออกมา หรือถึงเดินออกมา คนละมุน ๆ อ่อนโยนแบบนี้ ก็จะไม่มีวันชอบผู้หญิงห้าว ๆ หัวเราะเสียงดังอย่างเราหรอก

ก็พึ่งข้อมูลจาก wongnai จ้า ว่าควรไปกินร้านไหนอะไรดี

ลูกสาวชอบข้าวซอยมาก นี่ก็เลยจะเอาลูกสาวเป็นตัวตั้ง ลูกอยากกินข้าวซอย เราไปซัดกันสักชามก่อนขับรถไปดูนาแมวที่อ.เทิงดีกว่า

เลยจิ้มเอาได้ร้านข้าวซอยร้อยปี นี่หมายใจไว้เลยว่า เดี๋ยวจะกินเร็ว ๆ แล้วไป

ไปครั้งแรก ผ่านเลยไป เอ๊ะ… ยังไง GPS มันผิดอะไรรึเปล่า ? ย้อนกลับมาใหม่ อ้อ… เป็นร้านที่มีต้นไม้ บานประตูไม้ อะไรต่อมิอะไรที่ทำให้เห็นหน้าร้านไม่ชัดเจนนัก

ลงรถได้ ก็คอมเพลนเจ้าของร้านเลยจ้า “พี่คะ … นี่กลัวคนหาร้านเจอหรือคะ ? อู๊ยยย… งงหน้าร้านแทบแย่”

พี่เจ้าของร้านยิ้มแฉ่ง แล้วบอกว่า “ปกติ ต้องจองมาก่อนนะครับ ไม่จองไม่ได้กินนะครับ”

What !!! วัด ดู ยู มีน ???

อะ… ทุกท่านดูรูปประกอบค่ะ

อยู่ ๆ มาเจอร้านนี้ เหมือนเจอเพชรที่ซ่อนอยู่ นี่มันโอมากาเสะอาหารเหนือชัดๆ

ข้าวซอยร้อยปี สูตรคุณตาหงษ์

ข้าวซอยร้านนี้ อร่อยมากกน้ำแกง เข้มข้นแต่รสชาติละมุนลิ้น ลูกสาวทานข้าวซอยเนื้อ แม่ทานข้าวซอยหมู มีสลัดผักจานน้อย พร้อมน้ำสลัดรสชาติอ่อน ๆ เสิร์ฟมาด้วย ผัก ผลไม้ ดอกไม้ที่นี่เป็น organic ค่ะ มีผักไฮโดรฯนิดนึง มีดอกอัญชัน แตงโม มะเขือเทศลูกจิ๋ว กลีบกุหลาบ แนมด้วยสับปะรดนางแล สดชื่นปากมาก ๆ ค่ะ

ส่วนที่เห็นเสิร์ฟไม่อั้น สีเขียวเหยือกโต คือ ชาเบลนด์สูตรเฉพาะของทางร้านค่ะ ชื่อ “ม่วนใจ๋” โหย … หอมอร่อยมาก เป็นชาเขียว ผสมใบเตย และอะไรอีกหลายอย่างที่เสิร์ฟเย็นก็ชื่นใจ เสิร์ฟร้อนก็ยิ่งหอม

จานต่อไปเป็นน้ำเงี้ยว เสิร์ฟมาเป็นคำเล็ก ๆ โปะด้วยหอมแดงคั่วกรอบ หอมสมุนไพรกินกับผักที่แนมมาก็อร่อย แต่อันนี้เป็นน้ำเงี้ยวที่รสชาติอ่อน ๆ นะคะ

อีกจานเป็นน้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว ทานกับผักและดอกไม้ทานได้มีแคบหมู

นี่แกงฮังเล หมูก็นุ่ม แกงก็อร่อยมาก มาอย่างละเล็กละน้อยแบบนี้กินกับผักและดอกไม้ที่เคียงมาทุกจาน โอ้โฮ…ละมุนละไมดีจริง ๆ

ของหวาน นี่เป็นวุ้นสีเขียว ราดซอสเปรี้ยว อันนี้ นี่บอกได้ว่าโคตรอร่อย เปรี้ยวหวานชื่นใจ และโรยด้วยอะไรกรุบ ๆ หอม ๆ

ของหวานอีกชามเป็น ไอศกรีม ท็อปด้วยฟองกาแฟ และมีเม็ดกรุบ ๆ น่าจะเป็นงาอะไรสักอย่าง โรยด้วยกลีบดอกไม้ฉีก อร่อยค่ะ

ส่วนที่เห็นด้านหลังนี่เป็นไอศกรีมกะทิลิ้นจี่ โรยด้วยกลีบกุหลาบ และเกสรดอกไม้สีชมพู ดิฉันเดาว่าน่าจะเกสรบัว ผักที่เห็นแซมมาในจานทุกอย่างกินได้หมด และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

พี่เจ้าของร้านยังอุตส่าห์เสิร์ฟชาม่วนใจ๋ในเวอร์ชั่นร้อน และชาเลือดมังกรสีแดงให้อีก

โอ๊ยยยยย … อร่อยประณีตไปหมดละมุนละไมดีจริง ๆ

เดี๋ยวไปคราวหน้า จะพาคนข้างตัวไปกินด้วย

ชื่อสินค้า:

ข้าวซอยร้อยปี, ชมจันทร์, น้ำเงี้ยวอ.ป้อม, ชาสุวิรุฬห์, Melt in Your Mouth, Blendsook

คะแนน:

CR – Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

– จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้

– ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แก้ไขข้อความเมื่อ