ด่วน!!!!หนุ่มคลั่ง ถือมีดวิ่งไล่ฟันชาวบ้าน

ด่วน!!!!หนุ่มคลั่ง ถือมีดวิ่งไล่ฟันชาวบ้าน

Post Image

ส่วน น.ส.วรพิชชา หนูแก้ว อายุ 23 ปี ลูกสาวนางเพชรรัตน์ เล่าว่า ตนอยู่กับแม่ 2 คน วันเกิดเหตุตนดูทีวีอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงเขย่าประตู 2-3 ครั้ง ตนออกมาดูพบเขาปีนรั้วกระโดดเข้ามาด้านใน ตนตกใจเรียกแม่ ช่วงจังหวะตนร้องเขาก็เข้ามาดึงประตูแล้ว เขาเดินตรงเข

้าไปในครัว ร้องเรียก “มึงอยู่ไหน” พอไม่เห็นใครเขาเดินออกจากบ้าน แล้วปีนรั้วออกไป เขาอยู่ในบ้าน 1-2 นาที ตอนเขาปีนเข้ามาเขาคิดว่ามีคนในบ้าน พอตนโผล่หน้าไป เขาจึงมั่นใจว่ามีคนในบ้านแน่ๆ ซึ่งเขาก็ถือมีดอีโต้เข้ามา ทรัพย์สินเสียหายมีประตูบ้านและรั้วเสียห

ายรู้สึกตกใจตอนแรกคิดว่าไม่เป็นอะไร มาคิดดูว่าตนอยู่กับแม่ 2 คนก็รู้สึกกลัวเวลามีเสียงอะไร จะรู้สึกระแวง ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่แม่เจอบ่อย เขาก็เป็นคนในชุมชนบ้านใกล้กัน เขามีพฤติกรรมแบบนี้ และเข้ามาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ตำรวจเข้าระงับเหตุเร็ว

และมีเพื่อนบ้านมาช่วยดูแล แต่ก็ยังอยากให้ตำรวจมาดูแลถ้าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกด้าน นางคำจันทร์ หนายกวด อายุ 55 ปี แม่นายชานนท์ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนมีลูกชาย 2 คน นายชานนท์เป็นคนโต วันที่เกิดเหตุตนไม่รู้เรื่องเพราะวันนั้นคนก่อเหตุนั่งดื่มสุรากับน้องชาย

เขาอยู่หน้าบ้าน แล้วมีการพูดเรื่องไปทำงานก็มีโต้เถียงกัน ตนจึงเข้ามาห้ามว่าอย่าเถียงกันมันจะทะเลาะกันอีก ลูกชายตนก็มาว่าตนว่าตนสอนเขา ตนจึงเดินหนีเข้าไปในครัว จึงไม่รู้ว่าลูกชายไปก่อเหตุตอนไหน เห็นแต่น้องชายไปเอาตัวพี่ชายมา ตนก็เห็นตอนมาอยู่หน้าบ้านแ

ล้ว ไม่คิดว่าลูกชายจะไปเข้าไปบ้านคนอื่น ตำรวจมาลูกชายก็ยอมรับสารภาพทุกอย่างยอมรับว่าลูกชายเคยเสพยามานานแล้วแต่ระยะหลังจะมีแต่ดื่มสุราอย่างเดียว แต่ถ้าเสพยาก็จะอยู่บนบ้านไม่ลงมา แต่ถ้าดื่มเหล้าเมาก็จะเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้ลูกชายก็เคยบวชวัดนี้ แล้วก็ย้

ายไปบวชที่วัดอื่น ส่วนเรื่องคดีก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการไป ตนจะไปบอกว่าลูกตนเป็นคนดีนั้นก็ไม่ใช่ เพราะลูกตนทำผิดแล้ว ก็แล้วแต่จะดำเนินการแบบไหนตามแต่สมควรผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตำรวจจับกุมตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด แต่ไม่พบสารเสพติด จึงแจ้

งข้อหา บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน พกพาอาวุธมีดไปเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด่วน!!!!หนุ่มคลั่ง ถือมีดวิ่งไล่ฟันชาวบ้าน

ส่วน น.ส.วรพิชชา หนูแก้ว อายุ 23 ปี ลูกสาวนางเพชรรัตน์ เล่าว่า ตนอยู่กับแม่ 2 คน วันเกิดเหตุตนดูทีวีอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงเขย่าประตู 2-3 ครั้ง ตนออกมาดูพบเขาปีนรั้วกระโดดเข้ามาด้านใน ตนตกใจเรียกแม่ ช่วงจังหวะตนร้องเขาก็เข้ามาดึงประตูแล้ว เขาเดินตรงเข

้าไปในครัว ร้องเรียก “มึงอยู่ไหน” พอไม่เห็นใครเขาเดินออกจากบ้าน แล้วปีนรั้วออกไป เขาอยู่ในบ้าน 1-2 นาที ตอนเขาปีนเข้ามาเขาคิดว่ามีคนในบ้าน พอตนโผล่หน้าไป เขาจึงมั่นใจว่ามีคนในบ้านแน่ๆ ซึ่งเขาก็ถือมีดอีโต้เข้ามา ทรัพย์สินเสียหายมีประตูบ้านและรั้วเสียห

ายรู้สึกตกใจตอนแรกคิดว่าไม่เป็นอะไร มาคิดดูว่าตนอยู่กับแม่ 2 คนก็รู้สึกกลัวเวลามีเสียงอะไร จะรู้สึกระแวง ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่แม่เจอบ่อย เขาก็เป็นคนในชุมชนบ้านใกล้กัน เขามีพฤติกรรมแบบนี้ และเข้ามาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ตำรวจเข้าระงับเหตุเร็ว

และมีเพื่อนบ้านมาช่วยดูแล แต่ก็ยังอยากให้ตำรวจมาดูแลถ้าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีกด้าน นางคำจันทร์ หนายกวด อายุ 55 ปี แม่นายชานนท์ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนมีลูกชาย 2 คน นายชานนท์เป็นคนโต วันที่เกิดเหตุตนไม่รู้เรื่องเพราะวันนั้นคนก่อเหตุนั่งดื่มสุรากับน้องชาย

เขาอยู่หน้าบ้าน แล้วมีการพูดเรื่องไปทำงานก็มีโต้เถียงกัน ตนจึงเข้ามาห้ามว่าอย่าเถียงกันมันจะทะเลาะกันอีก ลูกชายตนก็มาว่าตนว่าตนสอนเขา ตนจึงเดินหนีเข้าไปในครัว จึงไม่รู้ว่าลูกชายไปก่อเหตุตอนไหน เห็นแต่น้องชายไปเอาตัวพี่ชายมา ตนก็เห็นตอนมาอยู่หน้าบ้านแ

ล้ว ไม่คิดว่าลูกชายจะไปเข้าไปบ้านคนอื่น ตำรวจมาลูกชายก็ยอมรับสารภาพทุกอย่างยอมรับว่าลูกชายเคยเสพยามานานแล้วแต่ระยะหลังจะมีแต่ดื่มสุราอย่างเดียว แต่ถ้าเสพยาก็จะอยู่บนบ้านไม่ลงมา แต่ถ้าดื่มเหล้าเมาก็จะเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้ลูกชายก็เคยบวชวัดนี้ แล้วก็ย้

ายไปบวชที่วัดอื่น ส่วนเรื่องคดีก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการไป ตนจะไปบอกว่าลูกตนเป็นคนดีนั้นก็ไม่ใช่ เพราะลูกตนทำผิดแล้ว ก็แล้วแต่จะดำเนินการแบบไหนตามแต่สมควรผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตำรวจจับกุมตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด แต่ไม่พบสารเสพติด จึงแจ้

งข้อหา บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน พกพาอาวุธมีดไปเมือง หมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป