ด่วน!!! เกิดเหตุ ก ร า ด ยิ ง กาญจนบุรี
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ – ปรากฏคลิปภาพตำรวจพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เข้าไประงับเหตุท่าไหนไม่ทราบ มีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่น ถึงขั้นรัวปืนยิงสนั่นศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บด้วยในเหตุการณ์นี้คลิปภาพเหตุการณ์ขณะตำรวจ สภ.หนึ่ง พื้นที่จังหวัดกาญ
จนบุรี เข้าระงับเหตุประชาชนก่อการวิวาท บริเวณสวนสาธารณะศาลเจ้าพ่อเขามุสิ อำเภอหนองปรือ โดยผู้โพสต์ระบุว่า ถูกตำรวจใช้กระบองเหล็กฟาดคนที่อยู่ในคลิป จากนั้นก็มีตำรวจอีกนายที่มาด้วยกัน ยิงปืนติดต่อกันหลายนัด โดยมีเสียงผู้หญิงพูดว่า “เราห้าม เราห้ามนะเว้
ย ไม่ใช่เราช่วย เราห้าม” แต่ตำรวจที่ยิงปืนก็ยังไม่หยุดพฤติกรรม เดินตามหลังผู้หญิงที่กำลังล็อกตัววัยรุ่นคนหนึ่ง ออกจากที่เกิดเหตุ โดยตำรวจเดินตามไปยิงปืนลงพื้นซ้ำอีกหลายนัดนางสาวกัญลยา อายุ 28 ปี เสื้อสีเทา ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เวลา 23.45 น. คืน
วันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนและพรรคพวกกำลังนั่งคุยอยู่กับวัยรุ่นคนหนึ่งที่รู้จักกัน จู่ ๆ ก็มีตำรวจขี่รถมาจอด บอกว่า ต้องการยึดรถ และเรียกค่าปรับ 300 บาท แต่วัยรุ่นคนดังกล่าวมีเงินติดตัวแค่ 200 บาท ไม่พอจ่ายค่าปรับ จังหวะนั้นพี่ชายของเธอ ก็เข้าไปเคล
ียร์ ขอจ่ายค่าปรับ 200 บาท ได้ไหม แต่ตำรวจไม่ยอม จะยึดรถไปไว้ที่โรงพัก ซึ่งในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ ได้มีตำรวจนายหนึ่งหันมาถามพี่ชายตนเองว่า “หรือมึงจะเอากับกู” ก่อนมีเรื่องบานปลายทำร้ายกันโดยระหว่างนั้น เพื่อนผู้หญิงในกลุ่มพยายามเข้าไปห้าม ถูกชกเบ
้าตาเขียว ก่อนเดินแยกย้ายกันไป คาดไม่ถึงฝ่ายตำรวจจะเดินกลับมาหา ใช้กระบองเหล็กฟาดหัวพี่ชายอย่างแรง จนหัวแตก และชักปืนออกมายิงหลายครั้ง ตามคลิปภาพ ทำให้สะเก็ดกระสุนปืนแฉลบถูกพี่ชายของตน และพี่สาวบาดเจ็บ โดยยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้น พวกตนถูกกระทำ จะไม
่ยอมความอย่างแน่นอนแน่นอนว่าเมื่อคลิปภาพนี้ถูกแชร์ว่อนโซเชียล กระแสวิจารณ์ในแง่ลบพุ่งไปที่ตำรวจ ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ พลตำรวจตรี นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี สั่งการให้ผู้กำกับการ สภ.หนองปรือ ต้นสังกัด เร่งตรว
จสอบข้อเท็จจริง ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายจากการตรวจสอบพบว่า คืนที่เกิดเหตุ 6 มิถุนายน 2567 ได้มีตำรวจ 2 นาย โดยนายหนึ่ง มีตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.หนองปรือ ส่วนอีกนาย ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ สภ.หนองปรือ ร่วมกันออกปฏิบัติหน้าที่ในว
ันดังกล่าวจริง
ด่วน!!! เกิดเหตุ ก ร า ด ยิ ง กาญจนบุรี
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ – ปรากฏคลิปภาพตำรวจพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เข้าไประงับเหตุท่าไหนไม่ทราบ มีปากเสียงกับกลุ่มวัยรุ่น ถึงขั้นรัวปืนยิงสนั่นศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บด้วยในเหตุการณ์นี้คลิปภาพเหตุการณ์ขณะตำรวจ สภ.หนึ่ง พื้นที่จังหวัดกาญ
จนบุรี เข้าระงับเหตุประชาชนก่อการวิวาท บริเวณสวนสาธารณะศาลเจ้าพ่อเขามุสิ อำเภอหนองปรือ โดยผู้โพสต์ระบุว่า ถูกตำรวจใช้กระบองเหล็กฟาดคนที่อยู่ในคลิป จากนั้นก็มีตำรวจอีกนายที่มาด้วยกัน ยิงปืนติดต่อกันหลายนัด โดยมีเสียงผู้หญิงพูดว่า “เราห้าม เราห้ามนะเว้
ย ไม่ใช่เราช่วย เราห้าม” แต่ตำรวจที่ยิงปืนก็ยังไม่หยุดพฤติกรรม เดินตามหลังผู้หญิงที่กำลังล็อกตัววัยรุ่นคนหนึ่ง ออกจากที่เกิดเหตุ โดยตำรวจเดินตามไปยิงปืนลงพื้นซ้ำอีกหลายนัดนางสาวกัญลยา อายุ 28 ปี เสื้อสีเทา ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เวลา 23.45 น. คืน
วันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนและพรรคพวกกำลังนั่งคุยอยู่กับวัยรุ่นคนหนึ่งที่รู้จักกัน จู่ ๆ ก็มีตำรวจขี่รถมาจอด บอกว่า ต้องการยึดรถ และเรียกค่าปรับ 300 บาท แต่วัยรุ่นคนดังกล่าวมีเงินติดตัวแค่ 200 บาท ไม่พอจ่ายค่าปรับ จังหวะนั้นพี่ชายของเธอ ก็เข้าไปเคล
ียร์ ขอจ่ายค่าปรับ 200 บาท ได้ไหม แต่ตำรวจไม่ยอม จะยึดรถไปไว้ที่โรงพัก ซึ่งในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ ได้มีตำรวจนายหนึ่งหันมาถามพี่ชายตนเองว่า “หรือมึงจะเอากับกู” ก่อนมีเรื่องบานปลายทำร้ายกันโดยระหว่างนั้น เพื่อนผู้หญิงในกลุ่มพยายามเข้าไปห้าม ถูกชกเบ
้าตาเขียว ก่อนเดินแยกย้ายกันไป คาดไม่ถึงฝ่ายตำรวจจะเดินกลับมาหา ใช้กระบองเหล็กฟาดหัวพี่ชายอย่างแรง จนหัวแตก และชักปืนออกมายิงหลายครั้ง ตามคลิปภาพ ทำให้สะเก็ดกระสุนปืนแฉลบถูกพี่ชายของตน และพี่สาวบาดเจ็บ โดยยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้น พวกตนถูกกระทำ จะไม
่ยอมความอย่างแน่นอนแน่นอนว่าเมื่อคลิปภาพนี้ถูกแชร์ว่อนโซเชียล กระแสวิจารณ์ในแง่ลบพุ่งไปที่ตำรวจ ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ พลตำรวจตรี นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี สั่งการให้ผู้กำกับการ สภ.หนองปรือ ต้นสังกัด เร่งตรว
จสอบข้อเท็จจริง ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายจากการตรวจสอบพบว่า คืนที่เกิดเหตุ 6 มิถุนายน 2567 ได้มีตำรวจ 2 นาย โดยนายหนึ่ง มีตำแหน่งรองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.หนองปรือ ส่วนอีกนาย ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ สภ.หนองปรือ ร่วมกันออกปฏิบัติหน้าที่ในว
ันดังกล่าวจริง