ช็อก!! ไม่เคยขาดส่ง กยศ.หักเงินเดือนทุกเดือน จู่ๆ โดนฟ้องยึดทรัพย์

ช็อก!! ไม่เคยขาดส่ง กยศ.หักเงินเดือนทุกเดือน จู่ๆ โดนฟ้องยึดทรัพย์

Post Image

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567 มีรายงานว่า น.ส.สุรินธิดา มณีทอง อายุ 40 ปี อยู่เลขที่ 39 หมู่ 11 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ทำงานเป็นพนักงานจ้างตามภารกิจของ อบต.พรสำราญ อ.คูเมือง ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

และอยากให้เป็นสื่อกลางฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองและครอบครัว น.ส.สุรินธิดา เล่าว่าตนเข้าทำงานที่ อบต.พรสำราญ ตั้งแต่ปี 2565 และเมื่อปี 2562 กองทุน กยศ.ได้มีหนังสือจะหักเงินยืมเรียนจาก กยศ. ตนก็รับปฏิบัติ หลังจากน

ั้นเป็นต้นมา เงินเดือนตนจะถูกกองคลังของ อบต.หักทุกเดือน ๆ ละ 1,200 บาท และถูกหักเรื่อยมา พอมาถึงปี 2566 เงินเดือนของตนได้เข้าบัญชีเต็มจำนวนเงินเดือน คือไม่มีการหักเงินออกไปจึงเข้าไปสอบถามกองคลังของ อบต.ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีรายชื่อจาก กยศ.

ส่งมาให้หัก จึงไม่ได้หัก การเงินจะหักได้ก็ต่อเมื่อ กยศ.แจ้งรายชื่อมาว่ามีใครบ้างที่จะถูกหักและหักคนละเท่าไหร่ ถ้าไม่มีรายชื่อคลังจะไม่มีสิทธิ์หักเงินเดือนได้ น.ส.สุรินธิดา เล่าด้วยว่า ส่วนหนึ่งคิดว่า กยศ.น่าจะหักพอแล้ว หรืออาจจะเป็นนโยบายของรัฐบาลแต่

ละยุคที่มีการลดแลกแจกแถม จึงไม่ได้สนใจทำงานใน อบต.ของตัวเองตามปกติและเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตนได้รับหมายศาลจากศาลจังหวัดบุรีรัมย์ มี กยศ.เป็นโจทก์ ฟ้องตนเป็นจำเลยที่ 1 และคนค้ำประกันอีก 2 คนเป็นจำเลยที่ 2 และ 3 รวม 3 คน ว่าให้ดำเนินการบังคับค

ดีเพื่อสืบทรัพย์และยึดทรัพย์นำไปขายทอดตลาด แล้วนำเงินที่ได้ไปชำระ กยศ.พร้อมดอกเบี้ยเป็นเงิน 120,643.85 บาท ตนและครอบครัวต่างตกใจ และไม่เข้าใจแนวทางการทำงานของ กยศ.ทั้งที่ตนเต็มใจให้หักเงินเดือนและถูกหักมาโดยตลอดเป็นเวลา 5 ปี คือตั้งแต่ปี 2562-2566 คิ

ดเป็นเงินกว่า 60,000 บาทและเมื่อไปตรวจสอบยอดบัญชีแล้ว เงินต้นไม่เคยลดลงเลย จึงอยากจะฝากถึง กยศ.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา ซึ่งเป็นคนบุรีรัมย์ ออกมาชี้แจงและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเองในขณะนี้ หากถามว่าตนพร้อมที่จะจ่ายหรือไม่ ตนพร้อมแต

่ขอให้หักเงินเดือนเหมือนที่ผ่านมา เพราะลำพังจะหาเงินก้อนมาชำระคงไม่มี

ช็อก!! ไม่เคยขาดส่ง กยศ.หักเงินเดือนทุกเดือน จู่ๆ โดนฟ้องยึดทรัพย์

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567 มีรายงานว่า น.ส.สุรินธิดา มณีทอง อายุ 40 ปี อยู่เลขที่ 39 หมู่ 11 ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ทำงานเป็นพนักงานจ้างตามภารกิจของ อบต.พรสำราญ อ.คูเมือง ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

และอยากให้เป็นสื่อกลางฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองและครอบครัว น.ส.สุรินธิดา เล่าว่าตนเข้าทำงานที่ อบต.พรสำราญ ตั้งแต่ปี 2565 และเมื่อปี 2562 กองทุน กยศ.ได้มีหนังสือจะหักเงินยืมเรียนจาก กยศ. ตนก็รับปฏิบัติ หลังจากน

ั้นเป็นต้นมา เงินเดือนตนจะถูกกองคลังของ อบต.หักทุกเดือน ๆ ละ 1,200 บาท และถูกหักเรื่อยมา พอมาถึงปี 2566 เงินเดือนของตนได้เข้าบัญชีเต็มจำนวนเงินเดือน คือไม่มีการหักเงินออกไปจึงเข้าไปสอบถามกองคลังของ อบต.ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีรายชื่อจาก กยศ.

ส่งมาให้หัก จึงไม่ได้หัก การเงินจะหักได้ก็ต่อเมื่อ กยศ.แจ้งรายชื่อมาว่ามีใครบ้างที่จะถูกหักและหักคนละเท่าไหร่ ถ้าไม่มีรายชื่อคลังจะไม่มีสิทธิ์หักเงินเดือนได้ น.ส.สุรินธิดา เล่าด้วยว่า ส่วนหนึ่งคิดว่า กยศ.น่าจะหักพอแล้ว หรืออาจจะเป็นนโยบายของรัฐบาลแต่

ละยุคที่มีการลดแลกแจกแถม จึงไม่ได้สนใจทำงานใน อบต.ของตัวเองตามปกติและเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตนได้รับหมายศาลจากศาลจังหวัดบุรีรัมย์ มี กยศ.เป็นโจทก์ ฟ้องตนเป็นจำเลยที่ 1 และคนค้ำประกันอีก 2 คนเป็นจำเลยที่ 2 และ 3 รวม 3 คน ว่าให้ดำเนินการบังคับค

ดีเพื่อสืบทรัพย์และยึดทรัพย์นำไปขายทอดตลาด แล้วนำเงินที่ได้ไปชำระ กยศ.พร้อมดอกเบี้ยเป็นเงิน 120,643.85 บาท ตนและครอบครัวต่างตกใจ และไม่เข้าใจแนวทางการทำงานของ กยศ.ทั้งที่ตนเต็มใจให้หักเงินเดือนและถูกหักมาโดยตลอดเป็นเวลา 5 ปี คือตั้งแต่ปี 2562-2566 คิ

ดเป็นเงินกว่า 60,000 บาทและเมื่อไปตรวจสอบยอดบัญชีแล้ว เงินต้นไม่เคยลดลงเลย จึงอยากจะฝากถึง กยศ.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษา ซึ่งเป็นคนบุรีรัมย์ ออกมาชี้แจงและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเองในขณะนี้ หากถามว่าตนพร้อมที่จะจ่ายหรือไม่ ตนพร้อมแต

่ขอให้หักเงินเดือนเหมือนที่ผ่านมา เพราะลำพังจะหาเงินก้อนมาชำระคงไม่มี