ที่แท้เป็นรถตู้คณะกฐิน เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรฯ พุ่งชนต้นไม้ในพื้นที่ อ.โกสัมพีนคร เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 3 ราย

ที่แท้เป็นรถตู้คณะกฐิน เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรฯ พุ่งชนต้นไม้ในพื้นที่ อ.โกสัมพีนคร เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 3 ราย

Post Image

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 26 ตุลาคม 2567 ร.ต.อ.พัชรพล สมศรี พนักงานสอบสวน สภ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถตู้ผู้โดยสาร ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน ฮร 8689 กรุงเทพมหานคร เสียหลักลงข้างทางชนกับต้นไม้ บริเวณถนนพหลโยธิน (ขาล่อง

) กม.483/550 หมู่ที่ 3 บ้านคลองเมือง ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร โดยพบว่ามีผู้โดยสารรวมคนขับ ทั้งหมด 7 คน เดินทางกลับจากงานบุญกฐินพระราชทาน ที่วัดพระเจดีย์ซาวหลังพระอารามหลวง ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง มุ่งหน้ากลับกรุงเทพมหานคร โดยผู้โดยสารทั้

งหมด 6 คน เป็นข้าราชการจากกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกำแพงเพชรจุดโกสัมพีนครและจุดเมืองกำแพงเพชร ได้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมดนานกว่า 1 ชั่วโมง เนื่องจากต้องใช้เครื่องมือตัดถ่าง จำนว

น 2 ตัว งัดร่างผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตออกจากซากรถที่ชนเข้ากับต้นไม้จนด้านหน้ารถตู้พังเสียหายหนัก เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย คือ1.น.ส.ปุณยวีร์ สวรรยาพานิช อายุ 39 ปี (เสียชีวิตที่โรงพยาบาล) (อยู่บ้านเลขที่ 1314/365 ถ.

กรุงเทพ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร)2.น.ส.เบญจพร แสงทองสกาว อายุ 36 ปี (เสียชีวิตที่โรงพยาบาล) (อยู่บ้านเลขที่ 372/48 ม.1 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา)3.น.ส.พัชรพรรณ บำรุงพาณิชย์ อายุ 33 ปี (เสียชีวิตที่เกิดเหตุ) (อยู่บ้านเลขที่

468/215 ม.3 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย)4.นายสุรสิทธิ์ หลิมสุนทร อายุ 43 ปี (คนขับ) (เสียชีวิตที่โรงพยาบาล) (อยู่บ้านเลขที่ 299/59 ม.11 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ)และผู้บาดเจ็บ 3 ราย คือ1.นายกริชเพชร เดชโยธิน อายุ 53 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 200 ม.7

ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา)2.นายเฉลิมชนม์ ช่ออินทร์ อายุ 47 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 58/151 ม.1 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี)3.น.ส.ดลยา ฤทธิ์สกุลชัย อายุ 31 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 65/224 ม.7 แขวงหนองจอก เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร)โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ลำ

เลียงผู้บาดเจ็บและร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลโกสัมพีนครและส่งต่อยังโรงพยาบาลกำแพงเพชรเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่ารถตู้โดยสารคันดังกล่าว มีร่องรอยขับพุ่งลงข้างทางชนเข้ากับต้นไม้เกาะกลางฝั่งขาขึ้นเต็มแรง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตด

ังกล่าว โดยถนนเส้นนี้มีลักษณะถนนเป็นทางตรง 4 ช่องจราจร สภาพทางไม่มีหลุมบ่อ ไม่มีกล้องวงจรปิดข้างทาง คาดว่าคนขับน่าจะหลับใน และเป็นเส้นทางตรงที่ไม่มีปั๊มน้ำมันหรือที่พักระหว่างทาง อาจทำให้คนขับเหนื่อยล้า ที่ผ่านมาถนนเส้นดังกล่าวมีอุบัติเหตุบ่อยครั้งทุ

กปี โดยล่าสุดเมื่อปี 2561 เกิดเหตุรถตู้คณะกฐินมุ่งหน้าขึ้นเหนือมาประสบเหตุอุบัติเหตุชนต้นไม้กลางถนน จนมีผู้เสียชีวิต 7 ศพ และบาดเจ็บ 3 ราย คาดว่าคนขับน่าจะหลับใน “นายอนุพนธ์ เดชคุณมาก” อายุ 58 ปี หัวหน้ากู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดโกสัมพีนคร เล่าว่าได้รั

บแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีรถตู้โดยสารขับพุ่งชนต้นไม้เกาะกลางมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตติดภายในรถจำนวนมาก จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยนับ 10 นาย พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างออกให้การช่วยเหลือ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าสภาพรถด้านหน้าของรถตู้พังยับจากการชนกับ

ต้นไม้ โดยได้ใช้เครื่องตัดทางงัดร่างของคนขับและผู้โดยสารออกมาอย่างทุลักทุเล โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถนำผู้โดยสารออกมาจากซากรถสำเร็จ โดยได้ลำเลียงส่งไปยังโรงพยาบาลโกสัมพีนคร

ที่แท้เป็นรถตู้คณะกฐิน เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรฯ พุ่งชนต้นไม้ในพื้นที่ อ.โกสัมพีนคร เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 3 ราย

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 26 ตุลาคม 2567 ร.ต.อ.พัชรพล สมศรี พนักงานสอบสวน สภ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถตู้ผู้โดยสาร ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ป้ายทะเบียน ฮร 8689 กรุงเทพมหานคร เสียหลักลงข้างทางชนกับต้นไม้ บริเวณถนนพหลโยธิน (ขาล่อง

) กม.483/550 หมู่ที่ 3 บ้านคลองเมือง ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร โดยพบว่ามีผู้โดยสารรวมคนขับ ทั้งหมด 7 คน เดินทางกลับจากงานบุญกฐินพระราชทาน ที่วัดพระเจดีย์ซาวหลังพระอารามหลวง ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง มุ่งหน้ากลับกรุงเทพมหานคร โดยผู้โดยสารทั้

งหมด 6 คน เป็นข้าราชการจากกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกำแพงเพชรจุดโกสัมพีนครและจุดเมืองกำแพงเพชร ได้เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมดนานกว่า 1 ชั่วโมง เนื่องจากต้องใช้เครื่องมือตัดถ่าง จำนว

น 2 ตัว งัดร่างผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตออกจากซากรถที่ชนเข้ากับต้นไม้จนด้านหน้ารถตู้พังเสียหายหนัก เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย คือ1.น.ส.ปุณยวีร์ สวรรยาพานิช อายุ 39 ปี (เสียชีวิตที่โรงพยาบาล) (อยู่บ้านเลขที่ 1314/365 ถ.

กรุงเทพ-นนทบุรี แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร)2.น.ส.เบญจพร แสงทองสกาว อายุ 36 ปี (เสียชีวิตที่โรงพยาบาล) (อยู่บ้านเลขที่ 372/48 ม.1 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา)3.น.ส.พัชรพรรณ บำรุงพาณิชย์ อายุ 33 ปี (เสียชีวิตที่เกิดเหตุ) (อยู่บ้านเลขที่

468/215 ม.3 ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย)4.นายสุรสิทธิ์ หลิมสุนทร อายุ 43 ปี (คนขับ) (เสียชีวิตที่โรงพยาบาล) (อยู่บ้านเลขที่ 299/59 ม.11 ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ)และผู้บาดเจ็บ 3 ราย คือ1.นายกริชเพชร เดชโยธิน อายุ 53 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 200 ม.7

ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา)2.นายเฉลิมชนม์ ช่ออินทร์ อายุ 47 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 58/151 ม.1 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี)3.น.ส.ดลยา ฤทธิ์สกุลชัย อายุ 31 ปี (อยู่บ้านเลขที่ 65/224 ม.7 แขวงหนองจอก เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร)โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ลำ

เลียงผู้บาดเจ็บและร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลโกสัมพีนครและส่งต่อยังโรงพยาบาลกำแพงเพชรเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่ารถตู้โดยสารคันดังกล่าว มีร่องรอยขับพุ่งลงข้างทางชนเข้ากับต้นไม้เกาะกลางฝั่งขาขึ้นเต็มแรง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตด

ังกล่าว โดยถนนเส้นนี้มีลักษณะถนนเป็นทางตรง 4 ช่องจราจร สภาพทางไม่มีหลุมบ่อ ไม่มีกล้องวงจรปิดข้างทาง คาดว่าคนขับน่าจะหลับใน และเป็นเส้นทางตรงที่ไม่มีปั๊มน้ำมันหรือที่พักระหว่างทาง อาจทำให้คนขับเหนื่อยล้า ที่ผ่านมาถนนเส้นดังกล่าวมีอุบัติเหตุบ่อยครั้งทุ

กปี โดยล่าสุดเมื่อปี 2561 เกิดเหตุรถตู้คณะกฐินมุ่งหน้าขึ้นเหนือมาประสบเหตุอุบัติเหตุชนต้นไม้กลางถนน จนมีผู้เสียชีวิต 7 ศพ และบาดเจ็บ 3 ราย คาดว่าคนขับน่าจะหลับใน “นายอนุพนธ์ เดชคุณมาก” อายุ 58 ปี หัวหน้ากู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดโกสัมพีนคร เล่าว่าได้รั

บแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีรถตู้โดยสารขับพุ่งชนต้นไม้เกาะกลางมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตติดภายในรถจำนวนมาก จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยนับ 10 นาย พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างออกให้การช่วยเหลือ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าสภาพรถด้านหน้าของรถตู้พังยับจากการชนกับ

ต้นไม้ โดยได้ใช้เครื่องตัดทางงัดร่างของคนขับและผู้โดยสารออกมาอย่างทุลักทุเล โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถนำผู้โดยสารออกมาจากซากรถสำเร็จ โดยได้ลำเลียงส่งไปยังโรงพยาบาลโกสัมพีนคร