ช็อก หลานสาววัย 14 กระหน่ำแทงยายที่เลี้ยงดูมาเสียชีวิต

วันที่ 23 กันยายน 2567 มีรายงานว่า พบร่างผู้เสียชีวิตคือ นางรัตนาภรณ์ อายุ 48 ปี ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่งหลังวัดบริเวณถนนเอกชัย แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร สภาพศพถูกของมีคมแทงที่คอ 3 แผล, หลัง 1 แผล และเอว 3 แผล นอนจมกองเลือดอยู่หลังห้องพักต่

อมาทราบว่าผู้ก่อเหตุคือเด็กหญิงอายุ 14 ปี หลานสาวของผู้ตาย โดยหลังก่อเหตุได้ออกจากบ้านไป แล้วมามอบตัวกับตำรวจในเวลาต่อมา จึงควบคุมตัวไปที่ สน. แสมดำ เพื่อรอสอบปากคำกับสหวิชาชีพต่อไปนายเจนวุฒิ วัย 67 ปี สามีผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเองอยู่กินกับผู้ตายมา

กกว่า 30 ปี โดยผู้ตายมีลูกสาวติดมา คือ แม่ของเด็ก ซึ่งลูก 2 คน คือ หลานสาวคนที่ก่อเหตุ และหลานชาย อายุ 9 ปี ปกติผู้ตายเป็นคนติดสุรา ดื่มสุราทุกวัน ก็มีเรื่องทะเลาะกับหลานสาวอยู่บ้าง แต่ไม่เคยถึงขั้นลงไม้ลงมือ เวลาเมาสุราก็จะชอบด่าทอหลานอยู่เป็นประจำ

ไม่คิดว่าครั้งนี้หลานสาวจะก่อเหตุรุนแรงขึ้น ส่วนพ่อแม่ของเด็กนั้นก็ไม่ได้มาเห็นมาหลายปีแล้ว หลังจากที่คลอดเด็กทั้งสองออกมาก็ทิ้งไว้ให้ยายกับตนเองเลี้ยง ไม่ได้มาส่งเสียแต่อย่างใดนางสาวจันทร์นภา เพื่อนบ้าน เล่าว่า เห็นยายหลานทะเลาะกันเป็นประจำ โดยฝ่ายย

ายมักจะด่าทอหลานเวลาเมาสุราจนเป็นเรื่องปกติ แต่เท่าที่เคยพูดคุยกับเด็กที่ก่อเหตุ ก็เห็นว่าเป็นเด็กรักดี เพราะเคยบอกว่าอยากเรียนหนังสือ แต่ไม่ได้เรียนต่อหลังจากจบชั้น ป. 6 ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนเองก็ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกันแต่อย่างใด มารู้อีกทีก็พบว่าฝ่ายย

ายเสียชีวิตแล้ว รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากเมื่อคิดว่าหลานแท้ ๆ จะลงมือก่อเหตุกับยายของตนเองมีรายงานว่า สาเหตุมาจากความกดดันที่ถูกยายต่อว่าด่าทออยู่เป็นประจำ แต่ที่ฝังใจเจ็บคือผู้ตายเคยต่อว่าน้องชายว่าเป็นลูกกำพร้าไม่มีแม่ จึงโมโหขึ้นก่อเหตุ

ดังกล่าวขึ้น

ช็อก หลานสาววัย 14 กระหน่ำแทงยายที่เลี้ยงดูมาเสียชีวิต

วันที่ 23 กันยายน 2567 มีรายงานว่า พบร่างผู้เสียชีวิตคือ นางรัตนาภรณ์ อายุ 48 ปี ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่งหลังวัดบริเวณถนนเอกชัย แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร สภาพศพถูกของมีคมแทงที่คอ 3 แผล, หลัง 1 แผล และเอว 3 แผล นอนจมกองเลือดอยู่หลังห้องพักต่

อมาทราบว่าผู้ก่อเหตุคือเด็กหญิงอายุ 14 ปี หลานสาวของผู้ตาย โดยหลังก่อเหตุได้ออกจากบ้านไป แล้วมามอบตัวกับตำรวจในเวลาต่อมา จึงควบคุมตัวไปที่ สน. แสมดำ เพื่อรอสอบปากคำกับสหวิชาชีพต่อไปนายเจนวุฒิ วัย 67 ปี สามีผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเองอยู่กินกับผู้ตายมา

กกว่า 30 ปี โดยผู้ตายมีลูกสาวติดมา คือ แม่ของเด็ก ซึ่งลูก 2 คน คือ หลานสาวคนที่ก่อเหตุ และหลานชาย อายุ 9 ปี ปกติผู้ตายเป็นคนติดสุรา ดื่มสุราทุกวัน ก็มีเรื่องทะเลาะกับหลานสาวอยู่บ้าง แต่ไม่เคยถึงขั้นลงไม้ลงมือ เวลาเมาสุราก็จะชอบด่าทอหลานอยู่เป็นประจำ

ไม่คิดว่าครั้งนี้หลานสาวจะก่อเหตุรุนแรงขึ้น ส่วนพ่อแม่ของเด็กนั้นก็ไม่ได้มาเห็นมาหลายปีแล้ว หลังจากที่คลอดเด็กทั้งสองออกมาก็ทิ้งไว้ให้ยายกับตนเองเลี้ยง ไม่ได้มาส่งเสียแต่อย่างใดนางสาวจันทร์นภา เพื่อนบ้าน เล่าว่า เห็นยายหลานทะเลาะกันเป็นประจำ โดยฝ่ายย

ายมักจะด่าทอหลานเวลาเมาสุราจนเป็นเรื่องปกติ แต่เท่าที่เคยพูดคุยกับเด็กที่ก่อเหตุ ก็เห็นว่าเป็นเด็กรักดี เพราะเคยบอกว่าอยากเรียนหนังสือ แต่ไม่ได้เรียนต่อหลังจากจบชั้น ป. 6 ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนเองก็ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกันแต่อย่างใด มารู้อีกทีก็พบว่าฝ่ายย

ายเสียชีวิตแล้ว รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากเมื่อคิดว่าหลานแท้ ๆ จะลงมือก่อเหตุกับยายของตนเองมีรายงานว่า สาเหตุมาจากความกดดันที่ถูกยายต่อว่าด่าทออยู่เป็นประจำ แต่ที่ฝังใจเจ็บคือผู้ตายเคยต่อว่าน้องชายว่าเป็นลูกกำพร้าไม่มีแม่ จึงโมโหขึ้นก่อเหตุ

ดังกล่าวขึ้น