ครูเล่าทั้งน้ำตา รถบัสไฟไหม้ ยัน!! คนขับไม่ได้หนี

ครูเล่าทั้งน้ำตา รถบัสไฟไหม้ ยัน!! คนขับไม่ได้หนี

Post Image

ครูเล่าทั้งน้ำตา นาทีช่วยเด็กหนีตาย รถบัสไฟไหม้ เห็นคาตาโดดหน้าต่าง มีไฟลุกที่ตัว รีบวิ่งไปอุ้มจนถูกไฟลวกไปด้วย เผยคนขับตอนแรกยังไม่ได้หนี พยายามช่วยเปิดประตูแต่ไม่ออกจากกรณีเหตุการณ์โศกนาฏกรรมรถบัสทัศนศึกษานักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัย

ธานี เกิดเหตุเพลิงไหม้ บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้า ช่วงบริเวณหน้าเซียร์รังสิต ช่องทางขวา ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บ และสูญหายจำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นวันที่ 1 ต.ค.67 ที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต นางพรประภา อั๋นดอนกรอย

ครูประจำชั้น ม.3 ซึ่งได้รับบาดเจ็บแผลพุพองที่มือ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รถออกจากโรงเรียนราวๆ ตี 5 ครึ่งถึง 6 โมงเช้า เฉลี่ย 1 คันต่อ 44 คน โดยแวะทัศนศึกษาที่ จ.พระนครศรีอยุธยาก่อน จากนั้นจึงขับตามกันมา 3 คัน…ปรากฏว่ารถคันที่ 2 เกิดยางแตกและไปชนกับรถอ

ีกหนึ่งคัน แล้วไปพุ่งชนแบริเออร์ ตนเลยบอกให้รถที่นั่งมาคันที่ 3 จอดแล้วรีบลงไปช่วยเด็ก ซึ่งตอนนั้นมีครูอยู่บริเวณประตูหน้า 3 คน เปิดประตูและช่วยเหลือเด็กบางส่วนออกมาได้ ก่อนที่ตนจะเห็นเด็ก 2 คนกระโดดและมีไฟลุกไหม้ที่ตัว ออกมาขอความช่วยเหลือ ตนเลยรีบอ

ุ้มเด็กทั้งที่มีไฟลุกมือออกมา เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากรถที่มาด้านหลัง.นางพรประภา เปิดเผยต่อว่า ประตูข้างหลังของรถไม่สามารถเปิดได้ แต่ถ้าหากเปิดได้คงสามารถที่จะช่วยเหลือชีวิตเด็กได้มากกว่านี้ ส่วนคนขับรถที่เห็นคือไม่ได้หนีแต่เขาพยามจะเปิดรถ แต่ว

่าก็ไม่สามารถเปิดได้ และก่อนหน้านี้โรงเรียนจัดทัศนศึกษากันทุกปี แล้วแต่ผู้ปกครองอนุญาต ไม่เคยใช้บริการของรถทัวร์บริษัทนี้มาก่อน…

ครูเล่าทั้งน้ำตา รถบัสไฟไหม้ ยัน!! คนขับไม่ได้หนี

ครูเล่าทั้งน้ำตา นาทีช่วยเด็กหนีตาย รถบัสไฟไหม้ เห็นคาตาโดดหน้าต่าง มีไฟลุกที่ตัว รีบวิ่งไปอุ้มจนถูกไฟลวกไปด้วย เผยคนขับตอนแรกยังไม่ได้หนี พยายามช่วยเปิดประตูแต่ไม่ออกจากกรณีเหตุการณ์โศกนาฏกรรมรถบัสทัศนศึกษานักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัย

ธานี เกิดเหตุเพลิงไหม้ บริเวณถนนพหลโยธินขาเข้า ช่วงบริเวณหน้าเซียร์รังสิต ช่องทางขวา ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ทำให้มีผู้เสียชีวิตได้รับบาดเจ็บ และสูญหายจำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นวันที่ 1 ต.ค.67 ที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต นางพรประภา อั๋นดอนกรอย

ครูประจำชั้น ม.3 ซึ่งได้รับบาดเจ็บแผลพุพองที่มือ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า รถออกจากโรงเรียนราวๆ ตี 5 ครึ่งถึง 6 โมงเช้า เฉลี่ย 1 คันต่อ 44 คน โดยแวะทัศนศึกษาที่ จ.พระนครศรีอยุธยาก่อน จากนั้นจึงขับตามกันมา 3 คัน…ปรากฏว่ารถคันที่ 2 เกิดยางแตกและไปชนกับรถอ

ีกหนึ่งคัน แล้วไปพุ่งชนแบริเออร์ ตนเลยบอกให้รถที่นั่งมาคันที่ 3 จอดแล้วรีบลงไปช่วยเด็ก ซึ่งตอนนั้นมีครูอยู่บริเวณประตูหน้า 3 คน เปิดประตูและช่วยเหลือเด็กบางส่วนออกมาได้ ก่อนที่ตนจะเห็นเด็ก 2 คนกระโดดและมีไฟลุกไหม้ที่ตัว ออกมาขอความช่วยเหลือ ตนเลยรีบอ

ุ้มเด็กทั้งที่มีไฟลุกมือออกมา เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายจากรถที่มาด้านหลัง.นางพรประภา เปิดเผยต่อว่า ประตูข้างหลังของรถไม่สามารถเปิดได้ แต่ถ้าหากเปิดได้คงสามารถที่จะช่วยเหลือชีวิตเด็กได้มากกว่านี้ ส่วนคนขับรถที่เห็นคือไม่ได้หนีแต่เขาพยามจะเปิดรถ แต่ว

่าก็ไม่สามารถเปิดได้ และก่อนหน้านี้โรงเรียนจัดทัศนศึกษากันทุกปี แล้วแต่ผู้ปกครองอนุญาต ไม่เคยใช้บริการของรถทัวร์บริษัทนี้มาก่อน…